ผู้ว่าฯสระแก้ว ยอมรับ พบติดเชื้อโควิด-19 กว่า 20 คนไม่มีอาการ อยู่ระหว่างสอบสวนโรค

          การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจังหวัดสระแก้ว นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว  ยอมรับว่าขณะนี้ มีผู้ป่วยโควิดกว่า 20 ราย อยู่ระหว่างการซักประวัติเพื่อทำไทม์ไลน์ โดยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งทั้งหมดไม่แสดงอาการ พร้อมกันนั้นได้สั่งการเตรียมความพร้อมเรื่องโรงพยาบาลสนามที่ศูนย์แพทย์แผนไทยไว้รองรับ หากสถานการณ์อาจจะบานปลายขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงหรือสงสัยเข้ารับการตรวจโควิดได้ตามโรงพยาบาลทุกอำเภอ สำหรับผู้ที่เดินทางไปในสถานที่และวันเวลาดังกล่าว หรือไม่แน่ใจว่าตนเองเสี่ยงต่อการรับเชื้อหรือไม่ ให้เดินทางไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งในจังหวัดสระแก้ว

          สำหรับในวันนี้ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 7 และรายที่ 8 รวม 2 คน เป็นสามีภรรยากัน พร้อมเปิดไทม์ไลน์ดังนั้น

-ผู้ป่วยรายที่ 7 เป็นชายไทย อายุ 44 ปี อาชีพผู้จัดการร้านโบว์ลิ่งผับ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 6 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงใน กทม. กรณีคริสตัลคลับ ทองหล่อ กรุงเทพฯ

-ส่วนรายที่ 8 เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้ป่วยรายที่ 7 อาชีพแม่บ้าน ทั้งคู่พักอาศัยอยู่ที่บ้านในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

          โดยพบว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 64 ช่วงเช้าผู้ป่วยรายที่ 7 พาบิดาไปหาหมอที่โรงพยาบาลโรคทรวงอก กรุงเทพมหานคร และกลับมาที่ จ.สระแก้ว จากนั้นเวลา 22.00 น. ไปนั่งกินที่ร้าน ฅนหัวมุม ถนนเทศบาล 20 ร่วมกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 6 มีเพื่อนร่วมโต๊ะ 5-6 คน และช่วงเที่ยงคืนย้ายไปกินต่อที่ร้านข้าวต้มเป๋เคราทองหน้าไปรษณีย์สระแก้ว ส่วนผู้ป่วยรายที่ 8 ซึ่งเป็นภรรยา อยู่บ้านกับลูกชาย 2 คน ไม่ได้ออกไปไหน

-วันที่ 31 มีนาคม เวลา 11.00 น. ผู้ป่วยรายที่ 7 เดินทางไปสอบถามเรื่องใบประกอบการร้านฯ ที่สรรพากรเมืองสระแก้ว ประมาณ 5 นาที แล้วเดินทางกลับ โดยมีพ่อครัวที่ร้านไปด้วย จากนั้นเวลา 15.00 ไปห้างสรรพสินค้า แมคโคร สาขาสระแก้ว เพื่อซื้อของเตรียมเปิดร้านโบว์ลิ่งผับ

-เวลา 20.00 – 23.00 น. ไปกินข้าวที่บ้านเพื่อนรุ่นน้องตรงข้ามครัวน้องอุ้ม นั่งติดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 6 รับประทานและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกัน ไม่ได้ใช้ช้อนกลางระหว่างรับประทานอาหารและไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยขณะสนทนา มีเพื่อนร่วมวง 12 คน ส่วนผู้ป่วยรายที่ 8 ได้ออกไปนั่งเล่นที่ร้านโบว์ลิ่งผับกับผู้จัดการอีก 2 คน (ตรวจโควิด-19 แล้วไม่พบเชื้อ)

-วันที่ 1 เมษายน ผู้ป่วยรายที่ 7 ได้ไปแลกเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสระแก้ว ประมาณ 15 นาที โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ช่วงค่ำซึ่งเป็นวันเปิดร้านโบว์ลิ่งผับ ได้กล่าวทักทายกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 6 ซึ่งในร้านมีผู้มาร่วมงานประมาณ 100 คน ในขณะที่ผู้ป่วยรายที่ 8 ได้ออกไปเที่ยวร้านโบว์ลิ่งผับกับเพื่อน รวม 9 คน

-วันที่ 2 เมษายน ผู้ป่วยรายที่ 7 ตื่นนอนในช่วงบ่ายไม่ได้ไปไหน ช่วงค่ำเวลา 19.00 น. ได้เดินทางไปโบว์ลิ่งผับ ส่วนผู้ป่วยรายที่ 8 ตอนเช้าได้ไปส่งลูกไปโรงเรียน แต่ไม่ได้ลงจากรถ

-วันที่ 3 เมษายน ผู้ป่วยรายที่ 7 ไม่ได้ออกจากบ้าน ลางาน 1 วัน เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ สำหรับผู้ป่วยรายที่ 8 เช้าไปส่งลูกไปโรงเรียนแล้วไปรับตอนเที่ยง 15.00 น.ไปส่งลูกที่สวนน้ำพีพีแต่ไม่ได้ลงจากรถและไปรับในช่วงเย็น

-วันที่ 4 เมษายน เวลา 10.00 น. ผู้ป่วยรายที่ 7 ได้พาลูกทั้ง 2 คน ไปฝากไว้ที่บ้านมารดา ต่อมาช่วงบ่ายทราบว่าผู้ป่วยรายที่ 6 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เวลา 16.00 น. จึงชวนภรรยาไปตรวจและกลุ่มผู้บริหารร้านโบว์ลิ่งผับ รวม 7 คนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อำเภออรัญประเทศ จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อ 2 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 7 และรายที่ 8  เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อำเภออรัญประเทศ เมื่อเวลา 22.00 น.ในวันเดียวกัน

          ขณะนี้ ทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ทีมสอบสวนโรคอำเภอเมืองสระแก้วและโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ได้ลงไปสอบสวนโรค เพื่อค้นหาผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงเบื้องต้นจำนวน 123 คน  จำแนกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย ได้แก่ ผู้สัมผัสร่วมบ้าน ลูกชาย, บิดา, มารดา ของผู้ป่วยรายที่ 7, ผู้บริหาร พนักงานร้านโบว์ลิ่งผับ และเพื่อนร่วมกินข้าว รวม 23 คน ซึ่งทั้งหมดได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจไปแล้วเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 100 คน ทีมสอบสวนโรคได้ให้คำแนะนำและให้คุมไว้