พลเอก เจ้ายอดศึก (Sao Yawd Serk) หัวหน้ากองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ ซึ่งเป็นกองกำลังกบฏในรัฐชานทางภาคตะวันออกของเมียนมา เปิดเผยว่า กบฏ 3 กลุ่มในพื้นที่ทางภาคเหนือของเมียนมา จับมือเป็นพันธมิตร เรียกชื่อกลุ่มว่า พันธมิตร 3 พี่น้อง (Three Brotherhood Alliance) โดยเห็นว่า ถ้ากองทัพเมียนมาไม่หยุดใช้กำลังปราบปรามประชาชนผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ พร้อมทั้งขอให้ชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มของเมียนมาจับอาวุธขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองให้ปลอดภัย ขณะเดียวกัน การที่กองทัพเมียนมาใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงจะส่งผลให้ผู้ประท้วงบางคนในเมียนมาจัดตั้งกลุ่มติดอาวุธขึ้นมาของผู้ประท้วง เพื่อปกป้องกลุ่มผู้ประท้วงไม่ให้ถูกทำร้าย
พลเอก เจ้ายอดศึก กล่าวว่า การที่ทหารใช้อาวุธปราบปรามประชาชน เท่ากับทหารกำลังเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งฝ่ายกบฏจะไม่ยอมนิ่งเฉย แต่จะทำทุกวิธีทางเพื่อปกป้องประชาชน พร้อมกล่าวถึงทิศทางในอนาคตของเมียนมาว่าไม่สดใสมากนัก ประเทศชาติไม่มีเอกภาพ เกิดปัญหาด้านความมั่นคงหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หลังกองทัพภายใต้การนำของพล.อ.อาวุโส มิ่น อ่องหล่าย ผู้บัญชาทหารสูงสุดของเมียนมา เข้าทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
พลเอก เจ้ายอดศึก ตั้งข้อสังเกตว่าในปัจจุบันประชาชนในเมืองต่างๆทั่วประเทศเมียนมา ยังคงเดินหน้าประท้วง การทำรัฐประหาร ยังไม่ยอมแพ้ ขณะที่ฝ่ายพล.อ.อาวุโส มิ่น อ่องหล่าย ในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหารเอง ไม่มีทีท่าจะยอมถอย จึงมีแนวโน้มว่าสงครามกลางเมืองอาจจะเกิดขึ้น ทั้งการเจรจาเพื่อความปรองดองในชาติระหว่างกบฏ 10 กลุ่ม รวมถึงกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ และกลุ่มกะเหรี่ยง เคเอ็นยู ที่ลงนามสันติภาพกับรัฐบาลในปี 2558 สิ้นสุดลงทันทีหลังการทำรัฐประหาร
Cr: CNN