*ดีลขายหุ้นโรงกลั่นบางจากส่อเค้าล่ม /สยามอินดิการ่วมประมูลข้าว/ให้ประกันมือยิงหมา อิมพีเรียล*

23 มกราคม 2558, 08:22น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.



+++ขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากส่อแววล่ม  หลังจากที่หมดเวลา (9 มกราคม 2558) ยื่นรับซองเสนอซื้อหุ้นจำนวน ร้อยละ27.22 ส่วนที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถืออยู่ในบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ปรากฏมีผู้สนใจเข้ามายื่นซองเพียง 2 ราย ได้แก่ บริษัทเมอร์ริเมดไทม์ ของกลุ่มนายประยุทธ มหากิจศิริ กับบริษัทบีซีพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (BCP) นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานคณะกรรมการบริษัทบางจาก โดยข้อเสนอของผู้สนใจทั้ง 2 รายกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการซื้อขายหุ้นบริษัทบางจาก ซึ่งมีนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท.เป็นประธาน ท่ามกลาง ความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างฝ่ายผู้ต้องการขายหุ้นคือบริษัท ปตท.กับพนักงานบริษัทบางจาก เนื่องจากฝ่ายหลังเห็นว่าการขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากในครั้งนี้จะส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันบางจากเปลี่ยนมือจากองค์กรของรัฐ (บริษัท ปตท.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 27.22% รองลงมาได้แก่กระทรวงการคลัง 9.98%) กลายเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่บริหารโดยกลุ่มทุนที่มี "นักการเมือง" หนุนหลัง  ล่าสุด พนักงานบริษัทบางจากได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แสดงความไม่เห็นด้วยกับการขายหุ้นในครั้งนี้และขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ "หยุดยั้ง" การดำเนินการที่จะขายหุ้นบริษัทบางจาก



+++แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่คณะกรรมการบริษัท ปตท. จะไม่รับพิจารณาข้อเสนอในการซื้อหุ้นบางจากจากทั้ง 2 กลุ่ม หรือล้มการขายหุ้นบางจากในครั้งนี้จากเหตุผล 1) การถูกกดดันจากภาคประชาสังคมที่ไม่เห็นด้วย 2) พนักงานบางจากที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ไม่เห็นด้วย และ 3) การกดดันจากฝ่ายทหาร ซึ่งตกใจกับข้อเสนอของกลุ่มทุนการเมืองที่จะเข้ามาครอบครองโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ถูกดำเนินการไปในทางลับขณะนี้ก็คือ เกิดการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง ปตท.กับกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับ 2 (9.98%) เพื่อให้ "กองทุนวายุภักษ์" เข้ามาซื้อหุ้นบางจากในสัดส่วน 27.22% ที่ ปตท.ถืออยู่แทน โดยข้อเสนอนี้ ปตท.มองว่า การให้ภาครัฐถือหุ้นใหญ่ในบางจากจะลดการต่อต้านจากภาคประชาสังคมและพนักงานบางจากได้ และที่สำคัญการเข้ามาของกองทุนวายุภักษ์ยังทำให้บริษัทบางจากสามารถเป็นกลไกสำคัญของรัฐเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมพลังงานทดแทนได้ต่อไป



+++หลังราคาน้ำมันตลาดโลกทรงตัว ชี้ราคาน้ำมันดีเซลถึงจุดต่ำสุดได้ 25 บาทต่อลิตร    นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนัก งานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.ได้ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกถึงกลางปี 2558 โดยคาดว่าจะทรงตัวระดับ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันที่ราคาน้ำมันดูไบอยู่ที่ 47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลในประเทศนั้น พบว่าหากราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐ จะทำให้ราคาดีเซลอยู่ที่ 25 บาทต่อลิตร โดยขณะนี้ราคาดีเซลในประเทศอยู่ที่ 25.49 บาทต่อลิตร ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดแล้ว แต่ยังมีโอกาสที่ดีเซลจะแตะระดับต่ำสุดที่ 25 บาทต่อลิตรได้



ส่วนค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยทุกชนิดสูงถึง 2.30 บาทต่อลิตร จากที่ควรได้ 1.50 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำ มันโลกปรับลดลง ดังนั้น สนพ.กำลังพิจารณาที่จะให้ค่ายน้ำมันปรับลดราคาหน้าปั๊มลง เพื่อให้ค่าการตลาดอยู่ระดับที่เหมาะสมต่อไป



+++นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่สุวรรณภูมิ เรียกร้อง ให้กรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคม นาคมพิจารณาปรับเพิ่มค่าโดยสารแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้เหตุผลเรื่องอัตราค่าโดยสารที่กำหนดไม่เป็นธรรมว่า ขอยืนยันว่าการคิดคำนวณค่าโดยสารของแท็กซี่มิเตอร์ กรมการขนส่งทางบกได้พิจารณาครอบคลุมไปถึงการให้บริการของแท็กซี่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ต้องให้บริการผู้โดยสารในต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี หรือพัทยา      นอกจากเก็บรายได้ตามมิเตอร์แล้ว แท็กซี่สุวรรณภูมิยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมอีกเที่ยวละ 50 บาท ถือว่าคุ้มต้นทุนการให้บริการอยู่แล้ว ดังนั้นจึงยืนยันว่าการให้บริการแท็กซี่สุวรรณภูมิจะต้องกดมิเตอร์ทุกครั้ง ตามประกาศของกระทรวงคมนาคม มิฉะนั้นจะมีความผิดทั้งถูกปรับ และหากทำผิดซ้ำจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการเรียกร้องขอเก็บค่าสัมภาระของผู้โดยสารเพิ่มนั้น เรื่องนี้กรมการขนส่งทางบกขอเวลาศึกษารายละเอียดทั้งหมด



 



 



+++ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนธันวาคม 2557 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2556 ภาพรวมพบว่าลดลงร้อยละ 12.53 โดยสินค้าเกษตรที่มีราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ยางพารา ไก่เนื้อ และไข่ไก่ โดยยางพารา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับสินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สับปะรดโรงงาน และสุกร โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เนื่องจากความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลกมีมากขึ้น สับปะรดโรงงานราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตลดลง และสุกรราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว



+++เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 พบว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือนธันวาคม 2557 ลดลงร้อยละ 1.36



+++กรมการค้าต่างประเทศได้ชี้แจงรายละเอียดการประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลแบบยกคลังปริมาณรวม 9.99 แสนตันแบ่งเป็นข้าวขาว 5% ประมาณ 8.5 แสนตัน และข้าวหอมมะลิ ประมาณ 1.5 แสนตัน ในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รวม 168 คลัง 36 จังหวัด  พร้อมทั้งมีการปิดประกาศราคาขั้นต่ำของข้าวในแต่ละคลังที่นำมาเปิดประมูล รวมมูลค่าทั้งหมด 1.16 หมื่นล้านบาทในการชี้แจงครั้งนี้ มีตัวแทนของบริษัทสยาม อินดิก้า เข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่ง ขณะนี้ยังไม่มีการขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) กับบริษัทดังกล่าว เพราะต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากป.ป.ช.กรณีที่ชี้มูลความผิดเรื่องสัญญาข้าวจีทูจี 4 ฉบับ ม่ หากขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทดังกล่าวก็ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้



+++แผนการควบรวมระหว่างบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีซีแอล) และบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีเอ็มซีแอล) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ สำหรับบริษัทใหม่หลังการควบรวมกิจการคาดว่าจะมีรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 11,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.42 จากปี 57 ที่มีรายได้รวม 11,276 ล้านบาท โดยมาจากบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำนวน 2,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 จากปีก่อน เนื่องจากมีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นและมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร ส่วนรายได้จากบริษัททางด่วนกรุงเทพ คาดว่าจะอยู่ที่ 8,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.3 จากปีก่อน หลังการควบรวมสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดปี 58 ได้ทันที โดยมีนโยบายจ่ายปันผล ร้อยละ 40  ของกำไรสุทธิ แผนการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ คาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วกว่ากำหนดจากเดิมในเดือน ธ.ค. 59 จะเลื่อนขึ้นเป็นวันที่ 12 ส.ค. 59 เนื่องจากบริษัทสามารถดำเนินการก่อสร้างเสร็จเร็วกว่าที่คาด



+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องกําหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2558 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 และมาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 //1 ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาอื่นโดยสามารถขายได้ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. ยกเว้นการขายในกรณีดังต่อไปนี้ การขายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ การขายในสถานบริการ ซึ่งเป็นไปตามกําหนดเวลาเปิด-ปิด ของสถานบริการตามกฎหมาย ว่าด้วย สถานบริการ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.58 เป็นต้นไป



 ++++นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ จะแถลงสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ประจำปี 2557 เวลา 09.30 น. ที่กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจะเป็นการฉายภาพสถานการณ์ความรุนแรงด้านมลพิษตลอดในปีที่ผ่านมาว่า พื้นที่ใดยังอยู่ในระดับรุนแรงบ้าง



+++นายวิชา บุญลือลักษณ์ อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงสุนัขพันธุ์ทางชื่อขาวด่าง หรือซื่อบื้อ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 13 มกราคม เข้ามอบตัวกับ พบว่านายวิชา ก่อนเกิดเหตุขับรถยนต์ออกจากห้าง เมื่อถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่าเจ้าขาวด่างและกลุ่มสุนัขจรจัดบริเวณนั้นวิ่งไล่รถของนายวิชา ทำให้รถเสียหายเป็นรอยข่วน ก่อนหน้านี้นายวิชาเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กเคยผ่านบริเวณนี้เป็นประจำ ทั้งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านและขับรถยนต์ผ่าน ทุกครั้งที่ผ่านมักจะถูกสุนัขตัวดังกล่าวรวมทั้งกลุ่มสุนัขจรจัด ซึ่งเห่าและไล่กัดเป็นประจำ ญาติของนายวิชายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1.5 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว ตีราคาประกัน 1.5 แสนบาท

ข่าวทั้งหมด

X