*กษัตริย์ซาอุฯสวรรคต/สตง.ชะลอตรวจเงินวัดสระเกศ/ถอดปู-นิคม-สมศักดิ์ *

23 มกราคม 2558, 07:17น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.



++สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอะซิส กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย  สวรรคตในวันนี้ ด้วยพระชนมายุ 90 พรรษา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2558 สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ บิน อับดุลอะซิส กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเสด็จมาประทับยังโรงพยาบาล "คิง อับดุลอะซิส เมดิคัล ซิตี้" ในกรุงริยาด ตั้งแต่วันพุธ เพื่อเข้ารับการตรวจพระวรกาย ทรงพระประชวรด้วยโรคพระปัปผาสะบวม หรือปอดบวม ทำให้ต้องถวายการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจเป็นการชั่วคราวเนื่องจากพบว่า ทรงมีพระอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และทรงหายใจลำบาก โดยพระอาการโดยรวมยังคงทรงตัว สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์  ทรงเคยเข้ารับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกเคลื่อนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2548 ทรงมีพระอนุชาต่างพระราชมารดาคือ เจ้าชายซัลมาน บิน อับดุล อะซิส อัล-ซาอุด ซึ่งพระองค์เพิ่งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัชทายาอันดับ 1 เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 และคาดหมายว่า จะขึ้นครองราชย์ต่อจากนี้   โดยเจ้าชายซัลมานได้เสด็จฯ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ รวมถึงการประชุมผู้นำอ่าวเปอร์เซีย



+++นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ สตง.ได้ชะลอเข้าไปตรวจสอบเงินงบประมาณเกี่ยวกับจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำปี 2557 หมวดเงินอุดเงินเป็นเงิน 67.5 ล้านบาท เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และแต่งตั้งรักษาการขึ้นมาทำหน้าที่แทน ดังนั้น สตง.คงต้องรอให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯเข้าไปดูบัญชีวัด และพิจารณาว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่วัดใช้ไปนั้นจะเบิกจ่ายจากส่วนไหน ซึ่งเท่าที่ดูพบว่าวัดยังมีเงินบริจาคเหลือพอสมควร ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนการใช้เงินอุดหนุนจากงบประมาณไปใช้เงินจากการบริจาค น่าจะลดภาระการตรวจสอบของ สตง.ไปได้มาก ซึ่งหากใช้เงินบริจาคแทนเงินจากการอุดหนุนทั้งหมด ทำให้ สตง.หมดภาระการตรวจสอบ และถือเป็นฉลองศรัทธาของประชาชนที่มาบริจาค อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้เงินอุดหนุนบางส่วน สตง.คงต้องขอไปตรวจสอบเงินบริจาคควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเบิกจ่ายเงินจาก 2 บัญชีพร้อมกัน



+++เรื่องร้อนวันนี้ ต้องติดตาม  การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อลงมติถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะเริ่มประชุมในเวลา 10.00 น.



+++นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษก วิปสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. )เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้วิปสนช.เสนอวิธีการโหวตลงมติถอดถอนคดีนายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยแยกการลงคะแนน2 ครั้ง คือ ลงคะแนนคดีนายนิคมและนายสมศักดิ์พร้อมกัน ส่วนคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้แยกลงคะแนนอีกครั้ง แต่ล่าสุดจากการหารือกับ สนช.หลายคนเห็นว่า หากมีการแยกลงคะแนนตามวิธีดังกล่าว ผลการลงคะแนนครั้งแรกอาจจะส่งผลต่อการลงคะแนนในครั้งที่ 2 ได้ ดังนั้นจะมีการเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 23 ม.ค.ให้มีการลงคะแนนทั้งสามคนในครั้งเดียว โดยแยกบัตรลงคะแนนเป็นสามบัตร ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสนช.จะเห็นชอบวิธีดังกล่าวหรือไม่ เพราะจะไม่สามารถชี้นำการลงคะแนนได้  ในเวลาไล่เลี่ย9.00 น.สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เตรียมแถลงคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว   ต้องติดตามว่าจะมี ผลสรุปร่วมกันของ อส.กับคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ หลังถกกันมาหลายครั้ง



+++มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูงในสนช.เผยว่า หลังสมาชิกฟังการแถลงปิดคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิคมและนายสมศักดิ์แล้วเห็นว่า กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นที่ไม่ยับยั้งความเสียหายของงบประมาณของประเทศกว่า 7 แสนล้านบาท ที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวได้ อีกทั้ง ยังเป็นข้อมูลที่ชาวบ้านทุกคนรับทราบ ประกอบกับยังผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. และพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 ทำให้ สนช. มากกว่า 150 คน ที่ประกอบไปด้วยกลุ่ม 40 สว.นักวิชาการ ภาคธุรกิจ กลุ่มข้าราชการพลเรือนและสายทหารบางส่วนจะลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯได้สำเร็จแน่นอน  เพราะนอกจากจะรักษามาตรฐานการทำหน้าที่ของ สนช.ที่ยึดความถูกต้อง ตามหลักจริยธรรมและคุณธรรมแล้ว ยังส่งผลให้คสช. รัฐบาลบริหารประเทศไปได้ ขณะที่สภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งจะปฏิรูปประเทศ และกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำงานได้ราบรื่นและสังคมยอมรับว่า เอาจริงเอาจังในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น



++++รายงานข่าวจากอสส.เผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 22 มกราคม คณะทำงานฝ่ายอัยการฯได้ส่งมอบสำนวนคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวให้อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว โดยมีกระแสข่าวเชิงลึกคาดว่า อัยการสูงสุดอาจสั่งฟ้องดำเนินคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา โดยนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ที่เป็น 1ใน3ของตัวแทนคณะทำงานฝ่ายอัยการที่ไปประชุมร่วมกับคณะทำงานฝ่าย ปปช.เมื่อวันที่ 20 มกราคมจะเป็นผู้แถลง ขณะที่ ทีมทนายความ อดีตนายกฯจะเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุดด้วย



++++ขณะที่นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.กล่าวว่า ต้องฟังว่าทางอสส.จะแถลงออกมาอย่างไร ถ้าอสส.ไม่ส่งฟ้องก็ต้องทำหนังสือแจ้งป.ป.ช. พร้อมเหตุผล จากนั้นป.ป.ช.ก็จะมาพิจารณาว่าฟ้องเองหรือไม่ แต่แนวโน้มเรื่องดังกล่าวเราคงฟ้องเอง เพราะป.ป.ช.บอกว่าข้อมูลสมบูรณ์ครบหมดแล้ว คงให้อัยการฯพิจารณาเลยว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ เพราะเรื่องนี้นานแล้ว เราต้องทำอะไรให้ชัดเจนกันไป ประชาชนรอฟังอยู่



+++ยักยอกเงิน  สถาบันเทคโนโลยีพระจอม เกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 1,474 ล้านบาท   พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กล่าวถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือไม่ว่าจะเป็นนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นายสมพงษ์ สหพรอุดมการ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ ยังคงดำเนินการต่อเนื่องโดยเฉพาะนายธวัชชัยนั้น  ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวยัง 4 จุดเป้าหมาย ที่คาดว่านายธวัชชัยหลบซ่อนอยู่ แต่เชื่อว่าน่าจะยังอยู่ในประเทศไทย



+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดีลักเงิน สจล.กว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งยังหลบหนีอยู่ในประเทศอังกฤษว่า วันนี้ได้ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อขอให้ดำเนินการตามสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนแล้วจากข้อมูลล่าสุดยังไม่พบว่านายกิตติศักดิ์ เดินทางออกจากประเทศอังกฤษแต่อย่างใด



+++รศ.ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รองอธิการบดี สจล.เปิดเผยว่า สจล.ได้ออกถ้อยแถลงชี้แจง ขอให้ธนาคารพาณิช ส่งเอกสารสำคัญ คือ สลิปถอนเงิน สำเนาการสอบสวนนายทรงกลด ศรีประสงค์ขณะที่เป็นผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ โดยขณะนี้สถาบันเห็นว่าธนาคารไทยพาณิชย์ออกมาให้ข่าวในทำนองว่าธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบต่อการถอนเงินของสถาบันโดยทุจริตสถาบันจึงตั้งข้อสังเกต และเรียกร้องขอความร่วมมือ



+++พ.ต.อ.สีหนาท  ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีแก๊ง คอลเซ็นเตอร์อ้างข่าวการอายัดทรัพย์สินเครือข่ายยักยอกทรัพย์ สจล. ว่าขณะนี้มีการแจ้งเบาะแสกับ ปปง.แล้ว 2 ราย มีทั้งประชาชนทั่วไป และอาจารย์ สจล.ในรายของอาจารย์ สจล.ไม่หลงเชื่อโอนเงินให้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของ สจล.อาจตกเป็นเป้าหมายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวจึงได้ประสานกับอธิการบดี สจล.เพื่อให้แจ้งเตือนบุคลากรภายในไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโอนเงินให้แก๊งเหล่านี้



++++กรณีที่นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ ดาราชื่อดัง นำข้อมูลเข้าชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์ในการซื้อรถยนต์ ซูเปอร์คาร์ ยี่ห้อลัมโบกินี กัลลาโด จากนายกิตติศักดิ์  นั้น แม้กฎหมายฟอกเงินระบุว่าทรัพย์ที่ได้มาจากการฟอกเงินจะต้องถูกยึดเพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่กฎหมายก็มีบทคุ้มครองความสุจริตของผู้ซื้อด้วยในกรณีนี้ต้องนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสนอให้คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.พิจารณาลงมติว่าจะถอนการอายัดหรือไม่ โดยคณะกรรมการจะประชุมเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าวในวันที่ 11 ก.พ.นี้



+++การแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์ซิ่ง ในวันนี้ เวลา 09.30 น. พล.ต.ท.ดร.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ปัญหาการแข่งรถในทางสาธารณะ ที่ บก.02



+++เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษรายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม ระบุว่า น.ส.คริสตินา แอนเนสลีย์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษวัย 23 ปี เป็นนักท่องเที่ยวอีกคนที่เสียชีวิตที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 มกราคม หลัง น.ส.ฮันนาห์ วิธเทอริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกฆาตกรรมเสียชีวิตเมื่อเดือนกันยายน 2557  รายงานระบุว่า น.ส.แอนเนสลีย์อาศัยอยู่ในเมืองออร์พิงตัน ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อยู่ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระยะเวลา 4 เดือน ถูกพบว่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มกราคม โดยยังไม่มีรายละเอียดสาเหตุการณ์เสียชีวิตน.ส.แอนเนสลีย์โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เป็นข้อความสุดท้าย ระบุว่าเธออยู่ที่เกาะเต่า  ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศอังกฤษยืนยันการเสียชีวิตของชาวอังกฤษในประเทศไทย ขณะนี้กำลังให้ความช่วยเหลือ ทางด้านกงสุลกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 

ข่าวทั้งหมด

X