ฝรั่งเศสและเยอรมนีสู่การระบาดระลอกที่ 3 โรงพยาบาลมีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น

          ฝรั่งเศสเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศครั้งที่ 3 ในวันอังคาร (6 เม.ย.) นี้เนื่องจากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นจนคุกคามโรงพยาบาลของประเทศ โดยโรงเรียนและร้านค้าที่ไม่จำเป็นทั้งหมดจะปิดทำการเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเวลา 19.00 น.– 06.00 น. และจะต้องมีเหตุผลจำเป็นในการเดินทางห่างจากบ้านมากกว่า 10 กิโลเมตร

          จนถึงเมื่อวันศุกร์ (2 เม.ย.) ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น 145 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 5 เดือน และทำให้มีผู้ป่วยหนักที่อยู่ระหว่างการรักษาในห้องไอซียูขณะนี้มากถึง 5,000 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยรายใหม่ 46,677 คนและเสียชีวิต 304 ราย ซึ่งประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส คาดหวังว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้โดยที่ไม่ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีก แต่ฝรั่งเศสมีความล่าช้าในการดำเนินโครงการวัคซีน ทั้งยังมีกรณีของไวรัสโควิดกลายพันธุ์

         ที่เยอรมนี ประธานาธิบดีแฟรงค์ วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด และเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยยอมรับว่าขณะนี้เยอรมนีกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ซึ่งทำให้รัฐบาลกลางต้องออกมาตรการข้อจำกัดมากขึ้น เขายอมรับด้วยว่า ความผิดพลาดในการทดสอบและโครงการฉีดวัคซีน ทำให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่ของเยอรมนีประกาศว่าจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ แต่ในอีกไม่กี่วันถัดมาก็ประกาศยกเลิก ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี เห็นว่าการออกจากมาตรการในระหว่างวันที่ 1 ถึง 5 เมษายนคือความผิดพลาด

          ส่วนที่อิตาลีซึ่งอยู่ในระหว่างการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วันเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) ทุกภูมิภาคถูกจัดเป็น "เขตสีแดง" ที่เป็นระดับสูงสุดของการบังคับใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังอยู่ที่ระดับ 20,000 รายต่อวัน โดยในมาตรการนี้ จะห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น และในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เจ้าของบ้านสามารถต้อนรับเพื่อนบ้านได้อีก 2 คนเท่านั้น คริสตจักรยังเปิดทำการแต่จำกัดจำนวนผู้นมัสการ และในวันนี้ (4 เม.ย.) จะเป็นปีที่ 2 ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะส่งข้อความอีสเตอร์ไปยังจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ที่ว่างเปล่า

         เมื่อผ่านเทศกาลอีสเตอร์ไปแล้ว ภูมิภาคต่างๆจะอยู่ในข้อจำกัดระดับสีส้มหรือสีแดงไปจนถึงสิ้นเดือน นอกจากนี้ ยังมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษ 70,000 นายในการเฝ้าระวังทั่วประเทศ 

...