ดร. มาไท แมมเมน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัทแจนเซ่นในเครือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(J&J)ของสหรัฐฯเปิดเผยว่าในการทดลองวัคซีนในเฟส 2 เอ (Phase 2a) ที่ดำเนินการในขณะนี้ บริษัทจะขยายการทดลองวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มวัยรุ่นตอนต้นอายุ 12-17 ปีในสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา อาร์เจนตินาและบราซิลในเร็วๆนี้
โครงการนี้จะต่อเนื่อง หลังการทดลองวัคซีนกับวัยรุ่นตอนปลาย อายุ 18-25 ปี ซึ่งเริ่มต้นทดลองในสเปนและอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว พร้อมทั้งมีแผนจะทดลองฉีดวัคซีนให้กับสตรีมีครรภ์และกลุ่มเด็กในอนาคต จากเดิม ซึ่งบริษัทเน้นทดลองวัคซีนกับกลุ่มอายุ 18-55 ปี และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป
ด้านดร.พอล สโตฟเฟลส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของ J&J เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มวัยรุ่น ไม่เพียงแต่มีวัยรุ่นติดโรคโควิด-19 เท่านั้น แต่มีผลกระทบต่อการศึกษา สุขภาพกายและสภาพจิตใจของวัยรุ่น ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้วิจัยวัคซีนจะวิจัยและพัฒนาวัคซีนให้คนทุกกลุ่มอายุ ใช้ได้ทุกแห่งทั่วโลก เพื่อช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว
Cr: CNN, klkntv