หลังเกิดคนร้ายใช้มีดฆ่ายกครัวชาวลาว คือ นายขันตะลี จันดี อายุ 26 ปี, นางทองบาง ศรีเงาะ อายุ 24 ปี และ ด.ช.บิ๊ก อายุ 5 ขวบ เสียชีวิตในบ้านพักคนงาน ฟาร์มเลี้ยงหมูพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ล่าสุดชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีนำโดย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ได้นำกำลังกว่าตำรวจร่วม 40 นายลงพื้นที่ปูพรมค้นหาพยานหลักฐานในรัศมีระยะ 10 กม.จากจุดเกิดเหตุพร้อมทั้งตรวจค้นบริเวณฟาร์มหมูอย่างละเอียด โดยเฉพาะในสระน้ำด้านข้างฟาร์มหมูโดยให้มีการใช้เครื่องตรวจหาโลหะ ตรวจค้นทั้งในสระน้ำ และบริเวณสวนปาล์มน้ำมันเนื่องจากคาดว่าคนร้ายอาจจะทิ้งมีดสปาต้าของกลางไว้ นอกจากนั้นยังให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งเมียนมา และลาว ที่ทำงานรับจ้างอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบการมีอยู่ของตัวตน รวมทั้งเชิญตัวมาตรวจร่างกายและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ พร้อมเชิญตัว เจ้าของฟาร์ม พร้อมภรรยา และบุตรชายคนเล็ก ซึ่งพักอาศัยอยู่ในฟาร์มที่เกิดเหตุ มาให้ปากคำที่ สภ.กาญจนดิษฐ์
หลังจากสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า นายสุทธิศักดิ์ อายุ 25 ปี บุตรชายคนเล็ก ได้รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าพ่อแม่ลูก 3 ศพเอง โดยอ้างว่า ไม่พอใจที่นายขันตะลี ลูกจ้าง ชอบมาต่อว่าเชิงหึงหวงเมียหลายครั้งแล้ว โดยเริ่มลงมือจากเข้าไปก่อเหตุ ช่วงกินข้าว (ประมาณ 15.30 น.) ซึ่งพ่อไม่อยู่บ้าน ทำร้ายนายขันตะลี ก่อน แต่เพราะนางทองบาง เข้ามาช่วยเหลือสามี ทำให้ต้องฆ่านางทองบางไปด้วย ส่วนเด็ก 5 ขวบที่ต้องฆ่านั้นเพราะระหว่างเข้าไป ลงมือปรากฏว่าเด็กโดนลูกหลง ทำให้เสียชีวิตไปด้วย หลังก่อเหตุฆ่า 3 ศพแล้ว ได้รีบกลับไปล้างเนื้อตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ นำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทิ้งป่าไกลจากบ้านประมาณ 5 กม. ส่วนมีดโยนทิ้งลงบ่อน้ำไปแล้ว จากนั้นก็รีบไปหาพ่อ ที่งานศพก่อนจะไปหาญาติต่อ จนพ่อไปเจอศพถึงได้กลับมาบ้าน
โดยตำรวจยังไม่เชื่อในคำสารภาพดังกล่าว เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่น่าจะไปลงมือกับนางทองบาง หรือแม้แต่เด็กวัย 5 ขวบ เชื่อว่า น่าจะมีปมเหตุอื่นมากกว่า จึงได้คุมตัวไปตรวจหาสารเสพติดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป