การทุจริตในวงราชการ ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย ที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 2,400 ตัวอย่างในกลุ่มประชาชน ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ เมื่อเดือน ธ.ค.57 ว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย อยู่ที่ระดับ 49 เพิ่มขึ้นจาก 46 ในการสำรวจเมื่อเดือน มิ.ย.57 โดยหากดัชนีมีค่าเข้าใกล้ 100 แสดงว่าสถานการณ์คอร์รัปชันมีปัญหาลดลง หรือสถานการณ์ดีขึ้น
ส่วนความสามารถที่จะทนทานต่อการทุจริตคอร์รัปชันได้อยู่ที่ 2.48 จากเต็ม 10 คะแนน (0 คะแนน หมายถึง เกลียดหรือไม่สามารถทนต่อการทุจริตได้ และ 10 คะแนน หมายถึง สามารถทนต่อการทุจริตได้) ลดลงจาก 2.50 คะแนนในการสำรวจครั้งก่อ
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การจ่ายเงินใต้โต๊ะที่ลดลงเหลือ ร้อยละ 5-15 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพราะภาคประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด และรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้มงวดในการปราบปราม จนนักธุรกิจและข้าราชการ หรือนักการเมืองไม่กล้าจ่ายเงินหรือรับเงินมากนัก ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่การคอร์รัปชันในไทยลดลงมาก โดยหากเทียบการสำรวจล่าสุดกับปี 53-56 พบว่าการเรียกรับเงินใต้โต๊ะลดลง ร้อยละ 10-20 หรือมูลค่าความเสียหายลดลง 100,000 -200,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้รัฐบาลใช้เงินดังกล่าวกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก ร้อยละ 0.5-0.7 ของจีดีพี ประกอบกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลรวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและราคาน้ำมันที่ลดลงจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ร้อยละ 3-4 แน่นอน.