นับเป็นความร่วมมือกันครั้งสำคัญระหว่างสองหน่วยงาน คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ร่วมลงนามในสัญญาเช่าที่ดิน 2 แห่ง คือ พื้นที่บริเวณคลังพระโขนง-บางจาก สำนักงานและคลังน้ำมัน และพื้นที่อาคารและเขื่อนเทียบเรือ ปากคลองบางจากและปากคลองเจ๊ก
เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทั้ง 2 พื้นที่ เป็นพื้นที่เดิมที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เคยเช่าดำเนินงานอยู่แล้ว ในสัญญาเช่าราย 5 ปี เมื่อมีการตั้งบริษัทลูก คือ โออาร์ ที่ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมัน ปตท. จึงให้โออาร์ ทำสัญญาเช่ากับการท่าเรือฯ โดยตรง คณะกรรมการการท่าเรือฯ จึงพิจารณาให้โออาร์เช่าในระยะยาว เป็นเวลา 15 ปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ รวมทั้งเป็นการพัฒนาสินทรัพย์ของการท่าเรือฯ ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยการท่าเรือฯ ได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่า ตามประกาศการเช่าที่ดินของการท่าเรือฯ โดยโออาร์ มีแนวทางดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับการท่าเรือฯ
ด้านนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ระบุว่า การเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ ที่เช่าจากการท่าเรือฯ เป็นคลังจัดเก็บปิโตรเลียม และเป็นคลังจัดเก็บสินค้าประเภท non-oil หรือสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมัน รวมทั้งธุรกิจในด้านอื่นๆ ที่สอดคล้องและเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาเช่า เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของผู้บริโภคในเขตภาคกลาง เสริมสร้างความมั่นคง ต่อเนื่องสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ตลอดจนเป็นศูนย์กลางพลังงานของประเทศไทย ที่สำคัญคือ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันดูแลพัฒนาชุมชนใกล้เคียง ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
สำหรับการลงนามสัญญาเช่าที่ดิน 2 บริเวณดังกล่าว มีกำหนดเริ่มสัญญาตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นระยะเวลา 15 ปี ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป