น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจา ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการจำข้าวทำให้เกิดความเสียหาย เริ่มต้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ในการบริหารจัดการโครงการ และขอความเป็นธรรมต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หวังว่าสมาชิกสนช.จะไม่ถูกชี้นำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงตอบโต้คณะกรรมการป.ป.ช.ว่า การรายงานสำนวนของป.ป.ช. รวมถึงการตอบข้อซักถามมีพิรุธ การที่ ป.ป.ช. ถอดถอนและจะตัดสิทธิทางการเมือง5ปี ถือว่า เป็นการจำกัด เสรีภาพ พร้อมทั้งโต้แย้งคำแถลงของป.ป.ช.ที่ระบุว่า การไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีโครงการรับจำนำข้าวเวลาทั้งสิ้น 1ปี 10 เดือน ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะใช้ระยะเพียง101 วัน และให้เวลาตรวจสอบพยานหลักฐานเพียง 21 วัน และป.ป.ช.ยังตัดพยานที่สำคัญ ถือว่าเป็นการปิดกั้นการไต่สวน ขณะเดียวกันยังใช้พยานที่เป็นปฎิปักษ์กับรัฐบาลของตัวเอง ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายวรงค์ เดชกิจวิกรม จึงตั้งคำถามว่า สมาชิกสนช.จะเชื่อสำนวนคดีของป.ป.ช. ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่าโครงการนี้มีประโยชน์มากกว่าผลขาดทุนดังที่ถูกกล่าวหา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยุติโครงการ ยืนยันว่าไม่ได้บิดเบือนกลไกตลาดด้วย นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาหลายประเด็นก็ไม่ได้อยู่ในสำนวน ส่วนกรณีที่ระบุว่าตัวเองละเลยปล่อยให้มีข้าวหาย 2.9 ล้านตัน ไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลได้มีการทำสัญญาให้เอกชนที่เข้าร่วมโครงการในการจัดเก็บข้าวเป็นผู้รับผิดชอบ ได้นำหลักฐานไปโต้แย้งแล้ว แต่ป.ป.ช.ไม่รับฟัง ดังนั้นจึงขอแถลงคัดค้านคำแถลงของป.ป.ช ทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่เคยกระทำการทุจริต ไม่เคยโกง หรือปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริตในโครงการ พร้อมกล่าวว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจสร้างเงินทุนหมุนเวียนในประเทศ 3.8 แสนล้านบาท จึงขอความเป็นธรรมในการพิจารณาถอดถอนจากสนช. ด้วย
สานนท์