ครม. รับทราบ กทท.รับภาระค่าตู้คอนเทนเนอร์ 389 ลบ. แก้ปัญหาขาดแคลน

30 มีนาคม 2564, 19:11น.


          ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยมีแนวทางดังนี้คือ



1. ให้ท่าเรือกรุงเทพปรับลดค่าภาระตู้สินค้าเปล่าขาเข้าผ่านท่าเรือกรุงเทพในอัตรา 1,000 บาทต่อ ทีอียู  เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2564 รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นจำนวนเงิน  5.28 ล้านบาท



2. ให้ท่าเรือแหลมฉบังชดเชยค่ายกขนตู้สินค้าให้แก่เอกชนผู้ประกอบการนำเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดย จ่ายส่วนลดคืนในอัตรา 1,000 บาทต่อทีอียู เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2564 รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นเงิน 384 ล้านบาท



          น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินความคุ้มค่าในการดำเนินการและประโยชน์ที่ ผู้ประกอบการส่งออกรายย่อยได้รับ รวมทั้งให้หาข้อยุติเกี่ยวกับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการ



          กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ประเทศไทยประสบปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเพื่อใช้ในการส่งออก และอัตราค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ปี 2563 ส่งผลกระทบให้ผู้ส่งออกที่ต้องการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ต้องจ่ายเงินค่าระวางในอัตราที่สูงกว่าปกติ กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ



          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวทำให้ กทท.ต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 389 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่การบริหารงานปกติ โดย กทท.ได้เสนอขอหักวงเงินช่วยเหลือออกจากเงินที่ต้องส่งคืนกระทรวงการคลังรายปี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ระบุว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย ครม.จึงให้ กทท.หารือกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ในการพิจารณาเงินอุดหนุน เช่น งบกลางหรือเงินเยียวยาโควิด-19 สำหรับสถานการณ์ตู้คอนเทนเนอร์เปล่า ปัจจุบันเริ่มกลับมาประมาณร้อยละ30 หรือมีตู้ประมาณ 130,000 ทีอียู หรือมีปริมาณเท่ากับช่วงต.ค.63 ซึ่งมีสัดส่วนใกล้กับการส่งออก ถือว่าสมดุลกัน ซึ่งตั้งแต่เม.ย. กทท.จะประเมินปริมาณตู้เปล่าอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีปัญหาขาดแคลนก็ไม่ต้องเข้าไปอุดหนุนอีก



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X