ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2564

30 มีนาคม 2564, 18:32น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2564 



เชียงใหม่ เรียกคนจัดงาน เทศกาลสาดสี ชี้แจงพรุ่งนี้



          การจัดเทศกาลสาดสี(HOLI Festival)ที่เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของประเทศอินเดีย ในงานFINEDAY@Night Bazaar บริเวณไนท์บาซาร์ ย่านการค้ายามค่ำคืนชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค.64 ซึ่งหลายคนแสดงความเป็นห่วงว่าเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเป็นการหย่อนยานมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 หรือไม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเทศบาลนครเชียงใหม่ และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบแล้ว พร้อมทั้งเชิญให้ทางฝ่ายผู้จัดงานเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (31มี.ค.64)ซึ่งหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืน มาตรการป้องกันควบคุมโรคแล้วจะต้องดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น



          รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนว่า หากไม่มีความเข้มงวดกวดขันแล้วอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดการเอาเยี่ยงอย่างและทำให้เกิดการควบคุมยากลำบาก ขณะที่การจัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์นั้น มาตรการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนด อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันควบคุมโรค โดยยังคงเรื่องส่งเสริมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไว้ เพราะหากเกิดการแพร่ระบาดของโรคขึ้นมาจะก่อให้เกิดความหายนะในทุกด้านตามมาทันที จึงจำเป็นต้องเข้มงวดมาตรการทุกอย่าง



 อนุทิน ชี้นักการเมืองเลอะเทอะ กรณีวัคซีนโควิด-19 ค้างสต๊อกเพราะคนไม่เชื่อประสิทธิภาพ



          หลังนักการเมืองบางคนทักท้วงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของสาธารณสุขไร้ประสิทธิภาพ ทำให้มีวัคซีนค้างสต๊อกกว่า 1 ล้านโดส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เลอะเทอะ เพราะวันนี้วัคซีนเพิ่งเข้ามาถึงไทย 1 ล้านโดส และจะเข้ามาอีก 1 ล้านโดสในเดือน เม.ย. ขณะนี้กำลังทยอยฉีดให้เร็วที่สุด ซึ่งกรมควบคุมโรค รายงานว่า เป็นไปตามเป้าหมายและกำลังปรับแผนกระจายวัคซีนไปฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ด่านหน้าตามแนวชายแดน ทั้งทหาร ตำรวจ บุคลากรสาธารณสุข คนทำงานด่านหน้า วันนี้วัคซีนเข้ามาแล้วควรมีแต่เรื่องดีๆ ไม่ใช่มาหาความผิดความบกพร่อง กวนน้ำให้ขุ่น



          นายอนุทิน กล่าวว่า แผนการผลิตวัคซีนของแอสตราเซเนกาในไทยค่อนข้างเป็นไปตามเป้าหมาย แนวโน้มดีมาก เราพยายามให้เขาจัดส่งให้เร็วยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตต่างๆ ดูแล้วเป็นไปตามที่คาดหมาย เป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย ดังนั้น การหาวัคซีนสำรอง หากดูตามไทม์ไลน์แล้ว และเราพยายามประหยัดเงินให้มากที่สุด ถ้าของแอสตราฯ มาได้ ประสิทธิภาพการฉีดดี การจัดส่งเป็นไปตามที่วางไว้ จึงไม่จำเป็นต้องซื้อซิโนแวคเพิ่มอีก 5 ล้านโดส เพียงแต่เปิดช่องไว้ ส่วนตัวผู้ผลิตเองก็พยายามเน้นผลิต 1 ล้านโดสในไทยให้ทันในเดือน เม.ย.


          ส่วนกรณีที่หลายประเทศ ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนสั่งชะลอการส่งออก นายอนุทิน กล่าวว่า หากไทยไม่มีสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นผู้ผลิตวัคซีนของแอสตราฯ เราคงนอนไม่หลับ แต่วันนี้เราไม่ต้องกังวลว่าจะมีเหตุอะไรที่จะทำให้เราถูกตัดคิว หรือทำให้วัคซีนล่าช้า จริงๆ แล้วแผนการจัดหาและกระจายวัคซีนของไทยเป็นไปตามเป้าหมายมาตั้งนานแล้ว เพราะเราคุยตั้งแต่ปี 63 ว่าจะเริ่มผลิตและส่งได้ เดือน มิ.ย. แต่ที่หาวัคซีนเข้ามาก่อนในช่วงนี้ เพราะมีการระบาดในบางพื้นที่ ซึ่งมีของซิโนแวคแห่งเดียวที่ส่งให้ได้ กว่าจะได้มา 2 ล้านโดสต้องใช้วิธีการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง



          นอกจากนี้ สยามไบโอไซฯ จะส่งคืนวัคซีน 4 ล้านกว่าโดสให้รัฐบาล ซึ่งครอบคลุมประชากรกว่า 2 ล้านคน เป็นค่าตอบแทนที่จัดสรรงบประมาณ สำหรับการพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานบางอย่างเพื่อรองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี บ่งบอกว่า ไม่ได้เอาเปรียบ ทั้งที่งบนี้รัฐใช้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและหาวัคซีนภายในประเทศอยู่แล้ว



          การจับคู่ประเทศเพื่อเดินทางเข้าประเทศ นายอนุทิน กล่าวว่า หากมีการวิเคราะห์และพิสูจน์ได้ว่าผู้รับวัคซีนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น และผู้รับวัคซีนเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ต้องถือเป็นวัคซีนที่ปลอดภัย สามารถให้เข้ามาในประเทศ ไม่ต้องคิดถึงบับเบิลอะไร  ใครก็ตามที่มีความปลอดภัย แพร่เชื้อไม่ได้แล้วก็เดินทางเข้ามาทำธุรกรรมได้ตามปกติ ไม่ต้องไปรอว่าคนอื่นเขาจะรับเราหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องศักดิ์ศรีแต่เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เมื่อไรพร้อมก็เมื่อนั้น อย่ากลัวอย่าไปกังวลอะไร นอกจากการรับวัคซีนแล้ว หากเกิดการติดเชื้อก็ลดเจ็บป่วยรุนแรงและลดเสียชีวิต



กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รับรองวัคซีนซิโนแวกของจีน ล็อตที่2 เริ่มฉีด 1 เม.ย.นี้



          หลังจากวัคซีน CoronaVac ที่นำเข้ามาจากบริษัท ซิโนแวก ประเทศจีน ล็อตสอง ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันชีววัตถุ ได้รับตัวอย่างวัคซีนดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 จำนวน 2 รุ่นการผลิต และได้เริ่มตรวจวิเคราะห์คุณภาพวัคซีนโดยห้องปฏิบัติการในทันที นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ผลตรวจวิเคราะห์คุณภาพวัคซีนนั้นมีค่าอยู่ในเกณฑ์ยอมรับของการทดสอบทุกรายการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงได้ออกหนังสือรับรองรุ่นการผลิตให้กับวัคซีน CoronaVac ของบริษัทซิโนแวก ทั้ง 2 รุ่นการผลิตที่แจ้งการนำเข้ามารวมกันจำนวน 800,000 โดส เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปให้บริการกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้โดยเร็วต่อไป



          ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับวัคซีนโควิด- 19 ของซิโนแวกจำนวน 8 แสนโดส จะกระจายให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ เริ่มดำเนินการฉีดวันที่ 1 เมษายน 2564 ดังนี้



1. จังหวัดเป้าหมาย 22 จังหวัด ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เพื่อควบคุมการระบาดของโรค 6 จังหวัด 3.5 แสนโดส, พื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 8 จังหวัด 2.4 แสนโดส โดยอาจเพิ่มกลุ่มพนักงานโรงแรม และพนักงานขับรถสาธารณะ และพื้นที่ชายแดนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 8 จังหวัด 5 หมื่นโดส เน้นผู้ที่ทำงานที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสถานกักตัว  



          สำหรับ 22 จังหวัดที่จะได้รับวัคซีนเพื่อการควบคุมป้องกันโรคและการส่งเสริมเศรษฐกิจประกอบด้วย สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น กระบี่ พังงา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา สระแก้ว เชียงราย มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย และ จันทบุรี



2. จังหวัดอื่นๆ ที่เหลือจำนวน 1.6 แสนโดส เพื่อซักซ้อมความพร้อมทุกจังหวัดก่อนเริ่มฉีดวัคซีนจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยกระจายให้จังหวัดขนาดเล็ก ประชากรน้อยกว่า 1 ล้านคน จำนวน 800 โดส, จังหวัดขนาดใหญ่ ประชากร 1 -1.5 ล้านคน จำนวน 1,000 โดส และจังหวัดขนาดใหญ่พิเศษมีประชากรมากกว่า 1.5 ล้านคน จำนวน 1,200 โดส เน้นการฉีดในบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า



          นอกจากนี้ ยังเตรียมวัคซีนสำหรับ อสม.อีกจังหวัดละ 1,000 โดส ดังนั้น จังหวัดขนาดเล็กจะได้รับวัคซีน 1,800 โดส จังหวัดขนาดใหญ่ได้รับวัคซีน 2,000 โดส และจังหวัดขนาดใหญ่พิเศษจะได้รับวัคซีน 2,200 โดส



          สำหรับวัคซีนของแอสตราเซเนกา 1 ขวด ตามปกติสามารถฉีดได้ 10 โดส โดสละ 0.5 มิลลิลิตร เนื่องจากผู้ผลิตได้บรรจุวัคซีนมาเผื่อ โดย 1 ขวดมีวัคซีนปริมาณ 6.5 มิลลิลิตร หากบริหารจัดการการฉีดอย่างดีอาจฉีดได้ 11-12 โดสต่อขวด จะทำให้ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำรวจความต้องการผู้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ตามความสมัครใจ



อินเดีย เตรียมถูกวิจารณ์ หลังได้รับวัคซีนโควิด-19 มากที่สุดจากโครงการ COVAX ของ WHO ที่ผลิตเองในประเทศ



          องค์กรทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ เปิดเผยว่า อินเดียได้รับมอบวัคซีนมากที่สุดคือ 10 ล้านโดสหรือกว่าหนึ่งใน 3 จากปริมาณวัคซีน 28 ล้านโดสของบริษัทแอสตราเซเนกาที่ผลิตจากโรงงานของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ภายใต้โครงการกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อย จนถึงปานกลางขององค์การอนามัยโลก(WHO) ขณะที่ประเทศยากจนส่วนใหญ่ ที่ฝากความหวังไว้กับโครงการนี้ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับในปริมาณน้อยมาก รองลงมาคือ ไนจีเรีย ซึ่งได้รับวัคซีน 4 ล้านโดส 

         ประเด็นนี้อาจจะก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่ออินเดียและโครงการ COVAX ว่า เป็นโครงการที่เอื้อประโยชน์โดยตรงให้กับอินเดียมากกว่าประเทศอื่นๆ ก่อนหน้านี้ อินเดียตัดสินใจในเดือนนี้ว่าอินเดียจะขอเลื่อนการส่งออกวัคซีนในโครงการ COVAX ให้กับประเทศที่มีฐานะยากจนทั่วโลกที่เข้าร่วมโครงการนี้

          ที่ผ่านมา สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียซึ่งได้รับอนุญาตจากบริษัทแอสตราเซเนกา ใหัผลิตวัคซีน หลายร้อยล้านโดสในโครงการ COVAX ขั้นแรก WHO จะกระจายวัคซีนล็อตต่อไป 50 ล้านโดส ให้กับกลุ่มประเทศที่มีฐานะยากจนในเดือนนี้ แต่การส่งมอบวัคซีนนั้นอาจจะล่าช้าหลังอินเดียประกาศมาตรการจำกัดการส่งออกวัคซีน



ผู้นำอิตาลี พร้อมภริยา ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาแล้ว



          นายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี พร้อมด้วยนางมาเรีย เซเรเนลลา คาเปลโล่ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกของบริษัทแอสตราเซเนกาในวันนี้ ขณะที่อิตาลีเดินหน้าเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน นายดรากีและภริยาซึ่งมีอายุ 73 ปีทั้งคู่ เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์การฉีดวัคซีนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟหลักของกรุงโรม



          อิตาลีนับเป็นหนึ่งในหลายประเทศในยุโรปที่สั่งระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราวเมื่อต้นเดือนนี้ เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวบางราย หลายประเทศได้กลับมาดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาอีกครั้ง หลังจากองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ยืนยันว่า วัคซีนตัวนี้มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง



รองนายกฯ เผยเตรียมถกประเด็นเมียนมา ในที่ประชุมอาเซียน ต้นเดือนเม.ย.



          สถานการณ์ชายแดนที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเมียนมาอพยพเข้ามาอยู่ฝั่งไทย จากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง  นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จะมีการประชุมอาเซียนอีกรอบ ในต้นเดือน เม.ย.พร้อมยกตัวอย่างอินเดีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเมียนมาอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งอินเดียก็ปฏิเสธไม่มีใครเข้าไปเช่นกัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในบริเวณนี้เท่านั้น



          นอกจากนั้น ไทยยังได้ประสานไปยังประธานอาเซียนคือ บรูไนในหลายเรื่อง รวมถึงการจัดการประชุมอาเซียนด้วย ซึ่งยังไม่ขอลงรายละเอียด เพราะพูดตอนนี้ไม่ได้ แต่ประเด็นหลักคือ ต้องหาทางทำให้เกิดสันติสุขในเมียนมาสู่ประชาชนเมียนมาและให้อาเซียนกลับมาเป็นภูมิภาคที่สงบ นี่คือเป้าหมายนี่คือเป้าหมายและกำลังดำเนินการตามนั้น



          รวมทั้งไม่กังวลใจที่จะแสดงสถานะทางการทูตของไทยต่อเมียนมา เพราะเมียนมาก็พยายามรับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ แต่คงไม่สามารถลดความรุนแรงได้ในทันที ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งเมียนมาและอาเซียน รวมถึงประเทศไทยด้วยเพราะจะบานปลายและเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะรับได้ และเหตุการณ์ในเมียนมาไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนการเดินทางของคนไทยทางเครื่องบินสามารถทำได้หากมีเที่ยวบิน



ตม.ยืนยัน มีแผนรองรับผู้อพยพจากการชุมนุมในเมียนมา



          การเฝ้าระวังโควิด-19 ระบาดจากชาวเมียนมา ที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยัน มีแผนรองรับผู้อพยพจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา ข้ามมายังฝั่งประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,000 คน หลบหนีเข้ามา ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยให้นโยบายผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เฝ้าระวัง เตรียมพร้อมจัดสถานที่รองรับกรณีมีกลุ่มชาวบ้านอพยพข้ามมา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มเหล่านี้กระจายตัวออกนอกพื้นที่และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19



          นอกจากนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่ในการสนับสนุนเกี่ยวกับการตรวจสอบบุคคลเข้าออกในราชอาณาจักร และการบังคับใช้กฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ส่วนสถานการณ์ในฝั่งประเทศเมียนมา ถือเป็นนโยบายระหว่างประเทศ



          ส่วนความคืบหน้าการดูแลแรงงานข้ามชาติที่ติดโควิด-19 รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม ได้รับรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อประมาณ 400 คน ในความดูแลที่ไม่แสดงอาการ ส่วนภาพรวมกระทรวงสาธารณสุข จัดทีมแพทย์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลแรงงานเหล่านี้ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้ความมั่นใจว่า ขณะนี้สามารถดูแลได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล



'คนละครึ่ง'เฟส 3 มาแน่ มิ.ย.นี้ วงเงินที่เหลือจะไม่ทบกับเฟสใหม่



          ในวันที่ 31 มี.ค.2564 เป็นวันสุดท้ายที่ผู้ได้สิทธิ์จากมาตรการคนละครึ่ง ทั้งเฟส 1 และ 2 กว่า 14.8 ล้านคน จะสามารถใช้จ่าย  น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากนั้นแม้ว่าจะมีเงินเหลืออยู่ในระบบ ก็จะไม่สามารถใช้จ่ายได้อีก จึงขอให้ผู้ที่ยังใช้จ่ายไม่หมด ใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้มีผู้ใช้จ่ายครบวงเงิน 3,500 บาท แล้ว 7 ล้านคน และใช้จ่ายเกินกว่า 3,000 บาทแล้ว 13.47 ล้านคน



          มาตรการคนละครึ่งในเฟส 1-2 มีการเตรียมงบประมาณร่วม 52,250 ล้านบาท ที่ผ่านมามีการใช้จ่าย โดยประชาชนร่วมจ่ายรวม 101,315 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 1.05 แสนล้านบาท โดยคาดว่า เม็ดเงินดังกล่าว จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจในปี 2564 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2563 โดยเฉลี่ย 2 ปี ที่ร้อยละ 0.4



          สำหรับผู้ที่ใช้จ่ายเงินในมาตรการไม่ทัน วงเงินที่เหลือจะไม่ถูกนำไปรวมกับมาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วงเดือนมิ.ย. หลังจากที่มาตรการเราชนะ ม.33 เรารักกัน สิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.2564 ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการออกแบบมาตรการให้มีความเหมาะสม รวมทั้งป้องกันการทุจริต การใช้จ่ายจากมาตรการ ให้รัดกุมมากขึ้น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นให้ผู้ที่มีเงินออม นำมาใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างพิจารณาเช่นกัน



หุ้นไทยปิดตลาดเพิ่มขึ้น 5.64 จุด ความหวังผลประชุมโอเปกพลัส



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,589.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 107,224.29 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในทางบวก จากความคาดหวังเชิงบวกจากผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 เม.ย.นี้ คาดว่าจะคงกำลังการผลิตน้ำมัน และยังรอติดตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะเปิดเผยแผนการลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานคาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพรุ่งนี้ เมื่อดัชนีฯขึ้นมาใกล้ระดับ 1,600 จุดก็เผชิญกับแรงขายทำกำไร  แต่ก็ยังพยายามดันขึ้นไปต่อ แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯจะดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง  ดึงให้ Fund Flow ชะลอการลงทุน



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่การซื้อขาย โดยรวมเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังจากหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงเมื่อวานนี้ และตลาดยังถูกกดดันจากการ ขายหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD นิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 29,432.70 จุด เพิ่มขึ้น 48.18 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 28,577.50 จุด เพิ่มขึ้น 239.20 จุด

ข่าวทั้งหมด

X