สหรัฐฯ สั่งอายัดถุงมือยางทั้งหมดที่นำเข้าจากมาเลเซีย พบการบังคับใช้แรงงาน

          นายจอห์น เลียนาร์ด รักษาการผู้ช่วยฝ่ายบริหารของคณะกรรมการการค้า สังกัดสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP)ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า CBP พบพฤติกรรมการบังคับใช้งานในโรงงานผลิตถุงมือยางของบริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในมาเลเซีย เช่น การบังคับใช้แรงงานทำงานแทนการชำระหนี้ การให้ทำงานล่วงเวลามากเกินไป สภาพทำงานที่แย่และการจัดที่พักให้คนงานอยู่ในหอพักแรงงานอย่างแออัด ระบุว่า เป็นการละเมิดสิทธิของแรงงานอย่างร้ายแรง พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ท่าเรือต่างๆของสหรัฐฯ อายัดถุงมือยางทั้งหมดที่บริษัทท็อป โกลฟ ส่งทางเรือไปจำหน่ายยังตลาดสหรัฐฯ

          ด้านผู้บริหารของบริษัทท็อป โกลฟ กล่าวว่า ที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทประจำสหรัฐฯอยู่ระหว่างประสานกับตัวแทนจาก CBP เพื่อขอความชัดเจนและข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เพิ่มเติมว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่แล้ว บริษัทได้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาบกพร่องในประเด็นต่างๆที่ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้แรงงาน

         ก่อนหน้านี้ CBP ออกคำสั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ห้ามผู้ประกอบการของสหรัฐฯนำเข้าสินค้าประเภทถุงมือยางจาก 2  บริษัทในเครือของบริษัทท็อป โกลฟ หลังต้องสงสัยว่าบริษัททั้งสองอาจจะมีพฤติกรรมเอาเปรียบแรงงาน ต่อมา CBP ขยายขอบเขตของคำสั่งนี้ให้มีผลห้ามนำเข้าถุงมือยางทั้งหมดที่ผลิตจากโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ ในมาเลเซีย

           บริษัทท็อป โกลฟ มีพนักงาน 21,000 คน ผลิตถุงมือยาง 96,000 ล้านชิ้นต่อปี มีโรงงานในประเทศไทย ประเทศจีนและเวียดนาม แต่ส่วนใหญ่คือโรงงาน 41 แห่งจากทั้งหมด 47 แห่งตั้งอยู่ในมาเลเซีย

Cr: Reuters, BBC