ผลศึกษาอังกฤษ พบการฉีดวัคซีนเพียงเข็มแรกช่วยป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 62%

29 มีนาคม 2564, 20:25น.


          ดร.แมดดี ชโรติ(Maddie Shroti) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน (UCL)ของอังกฤษ เปิดเผยว่า มีข่าวดีจากผลการวิจัยเรื่องการใช้วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯและวัคซีนจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด-บริษัทแอสตราเซเนกาของอังกฤษ-สวีเดน ว่า 5 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีนเข็มแรก ทีมวิจัย พบว่า วัคซีนช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้สูงอายุสูงถึงร้อยละ 62



          ทีมวิจัยจาก UCL ศึกษาเรื่องนี้จากกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 10,412 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่ในบ้านผู้สูงอายุ 310 แห่งทั่วประเทศ และเป็นกลุ่มที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว ทำการวิจัยระหว่างเดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงกลางเดือนมีนาคมปีนี้ ทีมวิจัยพบด้วยว่า 4 สัปดาห์แรกหลังการฉีดวัคซีนเข็มแรก วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคร้อยละ 56 และตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 62 หลังฉีดวัคซีน 5 สัปดาห์



          นอกจากนี้ ทีมวิจัย พบว่า ผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนแล้วมาติดเชื้อโรคโควิด-19 เชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะอ่อนแอทั้งอาจจะแพร่เชื้อได้น้อยกว่ากลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ผลการวิจัย พบว่า วัคซีนทั้งสองตัวคือจากบริษัทไฟเซอร์และแอสตราเซเนกาใช้ได้ผลดีในการป้องกันโรคสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งโดยปกติมีร่างกายอ่อนแอมาก



          ทีมวิจัย เชื่อว่า วัคซีนทั้งสองตัวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ บริษัทไฟเซอร์และแอสตราเซเนกา สามารถช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ รวมถึงเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์จากอังกฤษซึ่งแพร่ระบาดเร็วกว่าเชื้อไวรัสดั้งเดิม เนื่องจากช่วงที่ทีมวิจัยทำการศึกษาเรื่องนี้ เชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ยังคงแพร่ระบาดอยู่โดยทั่วไปในอังกฤษ



Cr: BBC

ข่าวทั้งหมด

X