ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30น.วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม 2564

29 มีนาคม 2564, 14:10น.



เขตสะพานสูง พบติดเชื้อแล้ว 7 คน




         พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)  เปิดเผยว่า มีการรายงานพบการติดเชื้อกลุ่มก้อนใหม่ในตลาดสด สะพานสูง พื้นที่เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ รายละเอียดผู้ติดเชื้อดังนี้



1.ผู้ติดเชื้อรายแรก เป็นพ่อค้าขายเนื้อ อายุ 39 ปี บ้านอยู่คลองสามวา แต่มีประวัติไปรับเนื้อจากจังหวัดปทุมธานี มาขายที่ตลาดสดสะพานสูง โดยเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 และตรวจพบว่าติดเชื้อวันที่ 18 มี.ค.64



2.ภรรยาของพ่อค้าขายเนื้อ อายุ 37 ปี มีอาชีพขายเนื้อเช่นกัน เป็นผู้ป่วยแบบไม่มีอาการ ตรวจยืนยันผลว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 27 มี.ค.64  (ทั้งสองรายนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน จำนวน 7 คน ตรวจหาเชื้อแล้วพบว่าไม่ติดเชื้อ แต่ยังต้องรอการสอบสวนโรคเพิ่มเติม)



3.หญิงไทย อายุ 57 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ ใกล้ตลาดสดสะพานสูง มีอาการป่วยวันที่ 17 มี.ค.64 และตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 22 มี.ค.64 และมีการแพร่เชื้อไปยังคนในครอบครัวถึง 4 คน คือ



-ลูกชาย อายุ 35 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่



-พี่สาว อายุ 72 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ย่านร่มเกล้า



- แม่ อายุ 89 ปี ตรวจพบการติดเชื้อเมื่อวันที่ 23 มี.ค.64



- เหลน อายุ 4 ขวบ



เบื้องต้น มีผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดในเขตสะพานสูงแล้ว 7 คน กรุงเทพมหานคร และสำนักอนามัย กำลังเร่งสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงมาตรวจหาเชื้อ 



ไข่แตก ! พบผู้ป่วยรายแรก กาฬสินธุ์



          จังหวัดกาฬสินธุ์ พบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี มีประวัติเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมเพื่อน ซึ่งเพื่อนมีประวัติค้าขายที่ตลาดบางแค  โดยมีไทม์ไลน์ คือ

-22 มี.ค.64 ไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ ค้างที่ห้องพักของเพื่อน ซึ่งเพื่อนมีอาชีพค้าขายในพื้นที่เขตบางแค

-24 มี.ค.64 เดินทางกลับจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเครื่องบิน Thai VietJet จากสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อด้วยรถตู้โดยสารจากขอนแก่นถึงกาฬสินธุ์ จากนั้นขับรถส่วนตัวกลับบ้านพักใน ต.นาเชือก อ.ยางตลาด



-26 มี.ค.64 เพื่อนที่กรุงเทพฯ ไม่มีอาการป่วย แต่เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 พบว่าติดเชื้อ จึงโทรแจ้งเพื่อนที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเริ่มมีอาการปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก



-27 มี.ค.64 เข้ารับการรักษาที่ รพ.กาฬสินธุ์-ธนบุรี โดยแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติสัมผัสผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 และกลับจากกรุงเทพฯ ในช่วง 14 วันก่อนป่วย แพทย์จึงพิจารณาส่งตรวจหาเชื้อ และส่งต่อ รพ.กาฬสินธุ์ พบเชื้อโควิด-19




WHO เตือน แก๊งอาชญากร หลอกขายวัคซีนปลอม



          องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แสดงความกังวลเรื่องแก๊งอาชญากร ที่กำลังฉวยโอกาสจากความต้องการวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งมีมากกว่าจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในโลกในขณะนี้ จนพบว่ามีการทำวัคซีนปลอมขึ้นมาหลอกขายผ่านทางอินเตอร์เน็ตบนเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงตรวจสอบพบว่าแก๊งมิจฉาชีพ ยังนำขวดวัคซีนเปล่าที่ทิ้งแล้วหลังจากใช้วัคซีนหมดไปแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ดังนั้นเพื่อป้องกันการขายวัคซีนปลอม WHO จึงแนะนำว่าจะต้องทิ้งหรือทำลายขวดวัคซีนเปล่าหลังจากที่ใช้วัคซีนไปแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แก๊งมิจฉาชีพ นำขวดวัคซีนกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ WHO ยังขอให้ประเทศต่างๆ และประชาชน ช่วยกันสอดส่องว่ามีการขายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีลักษณะน่าสงสัยหรือไม่ โดยขอให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ในประเทศของตนเอง ซึ่งจะมีการแจ้งต่อมายัง WHO



20 ประเทศยากจน ไม่ได้ฉีดวัคซีน



          นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยเซุส  ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า WHO ขอร้องให้ประเทศทั้งหลาย ช่วยกันบริจาควัคซีนโควิด-19 ตามโครงการโคแวกซ์ ของ WHO ร่วมกับพันธมิตรวัคซีนกาวี เพื่อนำไปมอบให้ประเทศยากจน 20 ประเทศ หลังจากที่อินเดียประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ให้กับโคแวกซ์ ระบุว่าจำเป็นต้องผลิตวัคซีนให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศก่อน



          WHO ต้องการวัคซีนเร่งด่วน 10,000,000 ล้านโดส เพื่อนำไปจัดฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และ ผู้สูงอายุเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด



ยังคุมไม่ได้ ! ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดใน จ.ชวาตะวันตก อินโดฯ

          สถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวีของอินโดนีเซีย รายงานอ้างชาวบ้านในจังหวัดชวาตะวันตกว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างช่วยกันดับเพลิงขนาดใหญ่ หลังไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันบาโลงัน (Balongan) ของบริษัทเปอร์ตามินาของรัฐ หนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียตั้งแต่เวลา 00.45 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีคนบาดเจ็บ 20 คน ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว ในจำนวนนี้ 5 คนอาการสาหัสเช่น แผลไหม้ อีก 15 คน มีแผลไหม้เล็กน้อย




          ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยท้องถิ่นได้ช่วยกันอพยพชาวบ้าน 950 คนซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนไม่ห่างจากโรงกลั่นไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว



          ส่วนสาเหตุไฟไหม้ นายนิค วิทยาวาตี ซีอีโอของบริษัทเปอร์ตามินา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุไฟไหม้ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่าเกิดเหตุไฟไหม้ขณะฝนตกและมีฟ้าผ่า



          เหตุไฟไหม้ครั้งนี้ยังไม่กระทบต่อการกลั่นน้ำมันทั้งหมดของโรงงาน หวังว่าการกลั่นน้ำมันซึ่งปิดชั่วคราวในขณะนี้จะสามารถกลับมาเดินเครื่องจักรกลั่นน้ำมันตามปกติใน 5 วันข้างหน้า เพิ่มเติมว่าจุดที่เกิดไฟไหม้คือ ถังน้ำมันของโรงกลั่น ไม่มีความเสียหายต่อระบบกลั่นน้ำมันโดยรวมของโรงกลั่นน้ำมัน



          ภาพข่าวทางโทรทัศน์และคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์แสดงให้เห็นว่าไฟยังคงลุกไหม้ในช่วงเช้าวันนี้ มีควันดำลอยขึ้นท้องฟ้าเหนือโรงกลั่น ซึ่งชาวบ้านระบุว่าในตอนแรก มีกลิ่นเชื้อเพลิงค่อนข้างเหม็นจนรู้สึกแสบจมูก ต่อมาเสียงคล้ายฟ้าผ่าดังขึ้นขณะไฟไหม้อาคาร



 

ข่าวทั้งหมด

X