+++กองบังคับการตำรวจนครบาล จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับและเจ้าหน้าที่ทหาร ดูแลรักษาความปลอดภัยด้านหน้าอาคารรัฐสภา ในวันที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงปิดสำนวนคดีที่ป.ป.ช. ผู้กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยเพิกเฉยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าวทำให้เกิดความเสียหายและการทุจริต
+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบล่าสุดยืนยันว่านายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีในคดีโกงเงิน สจล.เดินทางเข้าประเทศอังกฤษ ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.2557 ขณะนี้ กองการต่างประเทศ ทำหนังสือขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายกิตติศักดิ์เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายในวันนี้ จะส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อประสานไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ขอให้ส่งตัวนายกิตติศักดิ์เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแจ้งเรื่องไปยังตำรวจสากล เพื่อให้ออกหมายแดง ในข้อหาลักทรัพย์และฟอกเงิน แจ้งไปยังประเทศสมาชิกทั้ง 190 ประเทศ ให้ช่วยติดตามจับกุม
+++การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการจัดทำงบประมาณ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ และความพร้อมในการบริหารใช้จ่ายให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล จำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้ประเทศเกิดความเข้มแข็งในทุกมิติ วงเงินงบประมาณประจำปี 2559 จะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบงบประมาณประจำปี 2558 โดยมีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบ ไม่ได้ต้องการจับผิด เพียงแต่จะขับเคลื่อนให้ทำงานให้ดีที่สุด เพราะต้องเร่งรัดให้ทันเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนประเทศภายใน 1 ปี เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างฐานรากที่เข้มแข็ง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งซ้ำรอยในวันหน้า
+++นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และนำทูลเกล้าฯในวันที่ 4 ก.ย. 2558 โดยขณะนี้ทุกส่วนราชการอยู่ระหว่างการเสนองบประมาณมาให้สำนักงบประมาณไม่เกินวันที่ 18 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณารายละเอียดส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 7 เม.ย.และเสนอให้สนช. ในช่วงเดือนพ.ค. 2558 นายสมศักดิ์กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายที่กำหนดไว้วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาทนั้นแบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ 2.1 ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุน 5.44 แสนล้านบาท โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปีที่งบลงทุนมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 จากเดิมมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 17 เท่านั้น งบลงทุนที่สูงขึ้นนี้เนื่องจากรัฐบาลต้องการเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น รถไฟฟ้า การบริหารจัดการน้ำ การปรับโครงสร้างด้านการศึกษา สาธารณสุข โดยใน 4 เรื่องนี้มีสัดส่วนงบลงทุนรวมกันกว่า 1 แสนล้านบาท
+++นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายกฯได้กำชับให้ส่วนราชการจัดอันดับความสำคัญการใช้เงินลงทุน การใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับรายได้ที่มีอยู่จำกัด และให้ปรับลด ชะลอ หรือยกเลิกการใช้งบประมาณสำหรับกองทุนหมุนเวียนที่ไม่มีความจำเป็น รวมถึงให้ลดงบประมาณให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ลดลงมากในช่วงนี้
+++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว กล่าวว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จะเร่งปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดก่อน เป็นการปิดบัญชีในรอบสิ้นปีงบประมาณ 2557 (30 กันยายน 2557) เพื่อประเมินภาพผลขาดทุนจะเป็นเช่นใด หลังจากนั้นจะปิดบัญชีทุกปีในรอบสิ้นปีงบประมาณ ขณะนี้ทางอนุปิดบัญชีฯ ยังไม่ได้ผลตรวจสต๊อกข้าวชุดที่มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน หากได้ข้อมูล มาเร็วสุดน่าจะปิดได้ภายในเดือนม.ค.นี้ ยอมรับว่าหากนำข้อมูลการตรวจสต๊อกข้าวของ ม.ล.ปนัดดามาคำนวณ จะส่งผลขาดทุนเพิ่มเติมจาก 6.82 แสนล้านบาท เป็นตัวเลขปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวและประกันราคาข้าว 15 โครงการตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก่อน คสช.เข้ามาบริหารประเทศเพราะค่าเสื่อมจะสูงขึ้นจากเดิม รวมถึง มีข้าวหาย ยังไม่ได้มาประเมินทางบัญชีด้วย
+++นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า คณะทำงานกำลังเร่งปิดบัญชีเพื่อนำสรุปตัวเลข โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเสนอรายงานไปยังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คาดว่าไม่เกินวันที่ 15 ก.พ. เบื้องต้น คณะทำงานจะพยายามเร่งปิดบัญชีเพื่อนัดประชุมอนุกรรมการปิดบัญชีชุดที่มี ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานให้ได้ภายในเดือนม.ค.
+++แนวทางการผลักดันราคายางพารา พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนภาคเอกชน โดยให้ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ ร่วมปล่อยสินเชื่อเพื่อผลักดันราคายางพารา โดยใช้งบประมาณ 25,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการ ในส่วนของธนาคารออมสินจะให้สินเชื่อในการปรับปรุงเครื่องมือด้านอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเหลือปรับปรุงกิจการที่มีเครื่องมือในการจัดทำผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพารา เช่น ถุงมือ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ส่วนธนาคารกรุงไทยให้ออกสินเชื่อกับเอกชน ผู้ประกอบการ พ่อค้า ในการรับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกร
+++ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีแนวคิดให้เปิดตลาดน้ำบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษมใกล้ๆ ทำเนียบรัฐบาล บ่ายวันนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เขตดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตพระนคร ร่วมกับผู้แทนสำนักเลขาธิการนายกฯ นัดประชุมเพื่อแผนการดำเนินการ ณ สำนักงานเขตดุสิต
+++หอการค้าไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงเรื่อง ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย
+++ต้องลุ้นว่าที่ประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ( คิวอี) ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ หากเป็นไปตามนี้จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งต้องติดตามผลกระทบที่จะตามมา รวมทั้งแผนรับมือของรัฐบาล ตลาดเงิน-ตลาดทุนจับการประชุมวันนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดค่อนข้าง ผันผวนจากการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะออกมาตรการคิวอี นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปี เคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ แต่ 3-4 วันหลังนี้ เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว สาเหตุหลักจากปัจจัยภายนอก โดยค่าเงินภูมิภาคและ เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นตามเงินเยน
+++ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่อ่อนลง มีส่วนทำให้เงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นด้วย แม้ช่วงนี้ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ แต่นักวิเคราะห์บางกลุ่ม มองเศรษฐกิจไทย จะฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุล จากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน ปัจจัยดังกล่าว จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับค่าเงิน ซึ่งสอดคล้องไปกับสกุลเงินภูมิภาคอื่นๆ ที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน