พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ขอให้ทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชน ภาคธุรกิจ เร่งรัดการลงทุน ขณะเดียวกันก็หวังให้ภาคประชาชนที่มีเงินออม นำเงินออมส่วนหนึ่งออกมาใช้จ่าย เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศในปี 2564-2565 เติบโตได้ถึงร้อยละ 4 ตามเป้าหมายให้ได้ โดยมาตรการของรัฐบาลที่ผ่านมาได้เข้าไปช่วยเหลือการดำรงชีพของประชาชนและช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ แต่ภาครัฐเองก็มีเงินจำกัด
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สั่งการให้กระทรวงการคลัง หามาตรการจูงใจให้ประชาชนนำเงินฝาก ส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงโควิด-19 ประมาณ 1,500,000-1,600,000 บาท มาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตถึงร้อยละ 4 ตามเป้าหมายที่ นายกรัฐมนตรี คาดหวัง เบื้องต้น คาดว่า แนวทางหลักจะยึดการร่วมจ่าย (โคเพย์) คล้ายกับมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งมาตรการภาษีที่กระตุ้นกลุ่มกำลังซื้อสูงใช้จ่ายคล้ายโครงการช้อปดีมีคืน
ตัวเลขเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 4 เป็นการบ้านสำคัญของทุกฝ่าย ต้องทำให้ดีที่สุด ผลักดันนโยบายต่างๆ การลงทุน ส่งออก เร่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวให้เร็ว ถ้าปลายปี ต.ค.64 จะไม่ทัน
นอกจากนี้ จากการสำรวจ พบว่า ตัวเลขการออมเงินของคนไทยสูงขึ้นกว่าร้อยละ 11 จากวงเงินดังกล่าว อยากให้ออกมาใช้จ่ายเพื่อช่วยคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
แฟ้มภาพ