นายแดเนียล ซัง ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาการบิน แอสปาย เอวิเอชั่น ของฮ่องกง กล่าวว่า กรณีนายอิกนาซิอุส โจนัน รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซียเปิดเผยว่าเครื่องบินแอร์บัส เอ320-200 เที่ยวบิน QZ8501 ของแอร์เอเชีย ทำการบินไต่ระดับขึ้นด้วยอัตราความเร็วสูงเกินไป คือด้วยอัตราความเร็ว 6,000 ฟุต(หรือ 1,800 เมตร)ต่อนาที หรือสูงกว่าอัตราความเร็วปกติของเครื่องบินพาณิชย์ 2-3 เท่า ก่อนจะหยุดนิ่งและร่วงลงในทะเลชวาของอินโดนีเซีย ท่ามกลางพายุรุนแรงเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ขณะบินจากเมืองสุราบายาไปยังสิงคโปร์ คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้ง 162ศพ บ่งชี้ว่า มีส่วนคล้ายกับกรณีของเที่ยวบินเอเอฟ 447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ของฝรั่งเศสที่ตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อปี 2552 คนเสียชีวิต 228 ศพ สำหรับกรณีของเครื่องบินแอร์บัส เอ330 ของแอร์ฟรานซ์ บินจากกรุงริโอเดอจาเนโรของบราซิลไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่สูญหายในช่วงกลางคืนขณะเกิดพายุ ผลการตรวจสอบบ่งชี้ว่าระบบตรวจวัดความเร็วทำงานผิดปกติ เครื่องบินทำการบินไต่ระดับขึ้นในลักษณะเชิดหัวขึ้นในแนวชัน เครื่องบินหยุดนิ่งอยู่กับที่ ก่อนจะตกลงกลางทะเล สรุปว่าเป็นผลจากความผิดพลาดทั้่งในด้านเทคนิคและความผิดพลาดของนักบิน หลังเครื่องตรวจวัดความเร็วใช้งานไม่ได้ นักบินเองผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กันกับสถานการณ์เพราะไม่เคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนั้นมาก่อน ส่วนกรณีเครื่องบินของแอร์เอเชีย นักวิเคราะห์กล่าวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นในบริเวณ 2 ซีกโลกคือจากซีกโลกเหนือและใต้มาบรรจบกัน และมักจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอยู่บ่อยๆ ด้านนายเจอร์รี โซจัตมัน นักวิเคราะห์การบินอิสระในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย กล่าวว่า การบินด้วยอัตราความเร็วสูงเช่นนั้นบ่งชี้ว่า มีความผิดปกติ แต่ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุอย่างชัดเจนในขณะนี้เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลจากกล่องดำโดยครบถ้วน