หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัย การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ทำฟาร์มไก่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงและกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 (ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง)
ล่าสุด ศาลฎีกา มีคำสั่งรับคำร้อง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายของน.ส.ปารีณา กรณีครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบเพื่อประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ พร้อมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
สำหรับรายละเอียดคำร้องของ ป.ป.ช.ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่ง ดังนี้
1.ให้ น.ส.ปารีณา หยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีกาประทับรับฟ้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา
2.ให้ น.ส.ปารีณา พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี หากมีความผิดจริง
ซึ่งศาลฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้ ป.ป.ช. มีการชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจน ดำเนินการตามระเบียบของศาลอย่างครบถ้วน และตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ตัดอำนาจของ ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ ศาลจึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งเมื่อศาลไม่ได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ย่อมส่งผลให้ น.ส.ปารีณา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
ส่วนที่ น.ส.ปารีณา ร้องคัดค้าน โดยอ้างว่า ป.ป.ช. ใช้อำนาจไต่สวนโดยมิชอบ ศาลเห็นว่าเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณากันในชั้นการพิจารณา จึงมีคำสั่งนัดไต่สวนนัดแรก ในวันที่ 30 เม.ย.64 และให้ น.ส.ปารีณา ยื่นคัดค้านได้ภายใน 14 วัน