น้ำมันโลกเพิ่มขึ้น กังวลหลังเรือสินค้าขนาดยักษ์ ขวางเส้นทางคลองสุเอซ
หลังจากเกิดเหตุโกลาหลที่คลองสุเอซ ในอียิปต์ ซึ่งเชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดง เมื่อเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ชื่อ Ever Given เกิดเหตุสูญเสียการควบคุม จนเรือขวางคลองและเกยตื้น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 07.40 น. วันที่ 23 มี.ค.64 ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้การจราจรทางน้ำในคลองสุเอซ ติดขัดอย่างหนัก เรือสินค้านับ 100 ลำ ต้องรอคิวที่จะผ่านคลองสุเอซ เรือสินค้าลำนี้ เดินทางมาจากประเทศจีน ผ่านคลองสุเอซ มุ่งหน้าไปยังเมืองร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ คลองสุเอซ เป็นเส้นทางทางน้ำจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังทะเลแดง ถือว่าเป็นจุดเชื่อมโยงการเดินทางทางเรือที่สั้นที่สุดระหว่างยุโรปกับเอเชีย
บริษัทเจ้าของเรือในไต้หวัน แถลงว่า เรือ Ever Given เป็นเรือขนาดใหญ่ ยาว 400 เมตร กว้าง 59 เมตร ขนาดระวางขับน้ำถึง 200,000 ตัน และจดทะเบียนที่ปานามา
สำนักงานบริหารคลองสุเอซ (SCA) แถลงว่า ต้องใช้เรือลากจูงอย่างน้อย 10 ลำ พยายามเคลื่อนย้ายเรือบรรทุกสินค้าขนาดยักษ์ลำดังกล่าว การที่เรือเกยตื้นเป็นแนวเอียงขวางทั้งสองฝั่งคลอง เท่ากับเป็นการปิดการจราจรของคลองสุเอซไปโดยปริยาย เบื้องต้นมีการตั้งสมมุติฐานว่าเรือเผชิญกับกระแสลมกระโชกแรง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
ขณะเดียวกัน หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาแน่นอนได้ว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายเรือได้เมื่อใด ยิ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่ายว่าอาจสร้างแรงกระเพื่อมให้กับเส้นทางการเดินเรือสินค้าทั่วโลก การจราจรที่คลองสุเอซ มีอัตราความหนาแน่นคิดเป็นร้อยละ 12 ของการเดินเรือสินค้าทั่วโลก โดยคลองสุเอซ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย
เคยเกิดเหตุ เรือสินค้าลำหนึ่งของญี่ปุ่นลอยมาเกยตื้นขวางการจราจรทางเรือในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2560 หลังเรือมีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ครั้งนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอียิปต์ ใช้เรือชักลากเรือสินค้าออกจากจุดเกิดเหตุโดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถเปิดจราจรทางเรือได้ตามปกติ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก ฟื้นขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งน้ำมันดิบ
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ค.64 เพิ่มขึ้น 3.42 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพ.ค.64 เพิ่มขึ้น 3.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 64.41 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
การลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรงตัว หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เข้าให้ปากคำทางเศรษฐกิจกับสภาคองเกรส นายพาวเวลล์ ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ในปีนี้ จะเป็นปีที่แข็งแกร่งมากๆ
-ดาวโจนส์ ลดลง 3.09 จุด หรือร้อยละ 0.01 ปิดที่ 32,420.06 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 21.38 จุด หรือร้อยละ 0.55 ปิดที่ 3,889.14 จุด
-แนสแดค ลดลง 265.81 จุด หรือร้อยละ 2.01 ปิดที่ 12,961.89 จุด
อย่างไรก็ตาม การลดลงของดัชนีดังกล่าว เกิดจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของปีที่แล้ว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แล้วหันไปช้อนซื้อหุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มทำผลงานได้ดีท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุน หันมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาทองคำ ปิดตลาดวันพุธที่ 24 มี.ค.64 ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน
-ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเม.ย.64 เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 1,733.20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
มือกราดยิงที่รัฐโคโลราโด มีแนวคิดรุนแรงต่อต้านสังคม
สหรัฐฯ เปิดเผยรายละเอียดและประวัติของนายอาห์หมัด อัล อัลลีวี อลิซซา วัย 21 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายซีเรีย ผู้ก่อเหตุกราดยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คิง ซูเปอร์ ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด เมื่อบ่ายวันจันทร์ 22 มี.ค. 64 ตามเวลาท้องถิ่น ถูกตั้งข้อหา 10 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีการวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่า
สำนักงานสอบสวนกลาง(FBI) ตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวของมือปืนรายนี้ พบว่า ตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาเขามักจะโพสต์ข้อความในทำนองบ่นว่าไม่มีแฟน และยังเป็นพวกเกลียดนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีข้อความที่ส่อให้เห็นถึงแนวคิดรุนแรงต่อต้านการเหยียดชาวมุสลิมในสหรัฐฯ และยังเคยเปิดเผยทางโซเชียลมีเดียว่าถูกคนพวกนี้แฮกโทรศัพท์
นายอลิซซา เกิดที่ซีเรีย แต่อพยพมาพร้อมครอบครัวอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ เขาอาศัยอยู่ในเมืองอาร์วาดา ตำรวจบุกตรวจค้นบ้านพักที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 กิโลเมตร พบอาวุธอื่นๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสอบปากคำพี่สะใภ้ ทราบว่าเมื่อไม่นานมานี้นายอลิซซา หันมาชอบเล่นปืน และเห็นแนวโน้มที่จะก่อเหตุรุนแรง
พี่ชายผู้ต้องหา เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า น้องชายเป็นพวกต่อต้านสังคมอย่างรุนแรง มีอาการวิตกจริตต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม นอกจากนี้ ยังมีอาการป่วยทางจิต และเป็นพวกที่เคยถูกบูลลี่ หรือถูกเพื่อนล้อเลียนในโรงเรียนในเรื่องรูปร่างด้วย
นายอลิซซา เคยถูกตำรวจจับอย่างน้อย 1 ครั้ง รวมถึงเมื่อปี 2560 ที่เขาต่อยหน้าเพื่อนที่ล้อเลียนเขาเกี่ยวกับเชื้อชาติ
นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า FBI ตรวจพบประวัติของนายอลิซซา เนื่องจาก เขามีความเชื่อมโยงกับบุคคลหนึ่งที่เคยถูกสอบสวน แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดที่มากกว่านี้
ตำรวจสหรัฐฯ ลำดับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นว่า
-เวลา 14.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายอลิซซา ใช้อาวุธปืนพก Ruger AR-556 ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 64หรือประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนก่อเหตุ เดินเข้าไปกราดยิงคนที่ลานจอดรถหน้าห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเสียชีวิต 2 รายก่อนที่จะบุกเข้าไปข้างในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีคนพลุกพล่าน จากนั้นกราดยิงอีกรอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่หน่วยสวาทจะนำกำลังบุกเข้าไปภายใน ทำให้ผู้ต้องหาต้องยอมมอบตัว เขาบอกว่าจะขอคุยกับแม่ จากนั้นได้ถอดเสื้อออกและวางปืนลงกับพื้น
-ตำรวจพบผู้เสียชีวิตนอนเกลื่อนกับพื้นจำนวน 8 ราย อายุระหว่าง 20-65 ปี หนึ่งในนั้นคือเจ้าหน้าที่เอริค ทัลลีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปยิงต่อสู้กับมือปืนจนเสียชีวิต
-เวลา 15.28 น. ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากที่เกิดเหตุ และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลถูกยิงที่บริเวณขาข้างขวา จากนั้นคุมตัวไปขัง และโดนสอบสวนอย่างหนัก
เหตุกราดยิงที่รัฐโคโลราโดครั้งล่าสุดนี้ เป็นเหตุการณ์ความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนเป็นครั้งที่ 7 ในรอบสัปดาห์นี้ของสหรัฐฯ และเกิดขึ้นเพียง 6 วันหลังจากเกิดเหตุกราดยิงในสปา ที่รัฐจอร์เจีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภาออกกฎหมายแบนอาวุธปืน เพิ่มความเข้มงวดและละเอียดมากขึ้นในการตรวจสอบประวัติพื้นเพของผู้ซื้ออาวุธปืนในประเทศ
นายกฯ เยอรมนี ยอมรับผิด แถลงยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกฯ เยอรมนี แถลงข่าวเร่งด่วน ประกาศยกเลิกแผนใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ที่กำลังจะมาถึงแล้ว พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่สร้างความสับสน และระบุว่า นี่เป็นความผิดพลาดของเธอเพียงผู้เดียว และขอให้ประชาชนยกโทษให้ด้วย
เมื่อวันอังคาร 23 มี.ค.64 นางแมร์เคิล ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลวันอีสเตอร์ 1-5 เม.ย. 64 ภายใต้มาตรการดังกล่าว ร้านค้าเกือบทุกแห่งจะต้องปิดทำการ ขณะที่การรวมตัวกันต้องไม่เกิน 5 คน และต้องเป็นคนที่มีอายุมากกว่า 14 ปีจาก 2 ครัวเรือนเท่านั้น ส่วนร้านขายของชำได้รับอนุญาตให้เปิดเพียงวันเดียวคือวันที่ 3 เม.ย. 64
การกลับลำของรัฐบาลเยอรมนีเกิดขึ้นหลังจาก ผู้นำธุรกิจและนักวิทยาศาสตร์ออกมาวิจารณ์คำสั่งล็อกดาวน์อย่างกว้างขวาง จนทำให้รัฐบาลต้องประชุมฉุกเฉิน
เยอรมนีเป็นหนึ่งในชาติยุโรปที่กำลังเผชิญการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นระลอกที่ 3 นางแมร์เคิลระบุว่า เป็นผลจากการแพร่กระจายของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ที่พบเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งติดต่อง่ายกว่าสายพันธุ์ปกติ ในช่วง 24 ชั่วโมง เยอรมนีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,813 คน เป็นอันดับ10 ของโลก
อินเดีย พบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จาก UK แอฟริกาใต้ และบราซิล
อินเดีย ประเทศที่ 3 ของโลกที่พบผู้ติดเชื้อกว่า 11,000,000 คน เผชิญโควิด-19 ระบาดรุนแรงอีก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน นอกจากนั้นยังพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์คู่ชนิดใหม่ด้วย สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซี รายงานว่า อินเดียต้องกลับมาเผชิญกับวิกฤตระลอกที่ 3
จากการเก็บตัวอย่าง 10,876 คน นอกจากพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์คู่ชนิดใหม่แล้ว ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์อีก 771 คน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สหราชอาณาจักร 736 คน โควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ 34 คน และโควิด-19 กลายพันธุ์บราซิล 1 คน
กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย แถลงว่า จากการวิเคราะห์ตัวอย่างเชื้อโควิด-19 ที่เก็บจากรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของอินเดียที่เกิดการระบาดของโควิด-19 หนักที่สุด พบว่าการเรียงลำดับจีโนมของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์คู่ ชนิดใหม่นี้ ไม่ตรงกับเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้าที่สร้างความกังวลคือโควิด-19 กลายพันธุ์ UK โควิด-19 กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ และโควิด-19 กลายพันธุ์บราซิล
ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์คู่ชนิดใหม่นี้ เป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในรัฐมหาราษฏระ หรือรัฐอื่นๆ หรือไม่
ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เปิดเผยว่า รัฐบาลอินเดีย ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ใน 5 รัฐที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด เช่น รัฐมหาราษฏระ รัฐปัญจาบ รัฐคุชราต รัฐฉัตตีสครห์และรัฐทมิฬนาฑู รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน ห้ามประชาชนออกจากบ้านในยามค่ำคืน จากวันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.64 เพื่อลดการแพร่ระบาด
จีน แจกคูปองส่วนลด จูงใจให้ฉีดวัคซีน
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตต้าซิงของกรุงปักกิ่ง ของจีน มีสิทธิรับคูปองลดราคาสินค้า เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ซึ่งเป็นความพยายามสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนกัน เนื่องจากทางการจีนกำลังเร่งอัตราฉีดวัคซีนให้เพิ่มสูงขึ้น
เขตต้าซิง มีประชากรราว 1,800,000 คน เริ่มแจกคูปองส่วนลดให้ประชาชนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดส คูปองส่วนลดมีมูลค่าตั้งแต่ 8 หยวน (38 บาท) ไปจนถึง 30 หยวน (142 บาท) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ และนำไปใช้ซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเขตต้าซิงได้ ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตต้าซิงกว่าร้อยละ 73 เข้ารับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว
ขณะที่ ประชาชนจำนวนหนึ่งแสดงความวิตกกังวลในสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการแจกคูปองส่วนลดดังกล่าว เช่น ผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งในเวย์ปั๋ว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังของจีนแบบเดียวกันกับทวิตเตอร์ที่ระบุว่า การโน้มน้าวใจให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยวิธีดังกล่าวจะลดความน่าเชื่อถือของวัคซีน
สื่อทางการจีน รายงานว่า จีนมีกำลังผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 5,000,000 โดส ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากวันที่ 1 ก.พ.64ที่มีอัตราผลิตได้เพียงวันละ 1,500,000 โดส