ผู้นำบราซิล เปลี่ยนท่าที รณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19

          การแถลงต่อประชาชนทั่วประเทศผ่านสถานโทรทัศน์และวิทยุของบราซิลในวันนี้ ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูของบราซิล สร้างความประหลาดใจให้กับประชาชนด้วยการปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทิศทางใหม่ๆ ประกาศให้ปี 2564 เป็นปีแห่งรณรงค์ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้ารับการฉีดวัคซีน หลังมีผู้เสียชีวิต 3,251 รายในวันนี้ นับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดในบราซิลเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธุ์ปีที่แล้ว ทั้งๆที่ผ่านมา รัฐบาลของเขาไม่เคยรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันโรค เช่นสวมหน้ากากอนามัย และไม่เห็นด้วยกับมาตรการล็อกดาวน์เพื่อลดการแพร่ระบาด

          นายโบลโซนารู คาดว่าประชาชนจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเร็วๆนี้ แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกัน เขาเตือนว่าเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ยังคงเป็นภัยคุกคามทางสาธารณสุขใหม่สำหรับบราซิล ระบุว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการสำคัญๆเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควบคู่กับการประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

          นายโบลโซนารู กล่าวว่าที่ผ่านมารัฐบาลบราซิลได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด-บริษัทแอสตราเซเนกา ผู้ผลิตวัคซีนจากอังกฤษ-สวีเดน พร้อมทั้งสั่งซื้อวัคซีนจากซิโนแวคของประเทศจีน,จากบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐฯและวัคซีนจากบริษัทแจนเซน บริษัทยาในเครือของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของสหรัฐฯ เพิ่มเติมว่าในอนาคต บราซิลจะพึ่งพาตนเองในแง่ของการผลิตวัคซีนในประเทศ เนื่องจากไม่มีใครทราบว่าโรคโควิด-19 จะระบาดนานเพียงใด การตั้งโรงงานผลิตในประเทศจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าบราซิลมีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนได้ทุกปี

          ในปัจจุบัน บราซิล มีผู้ป่วยสะสม 12,136,615 คน เสียชีวิต 298,843 ราย เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ

Cr: CNN