*วิชา แถลงปิดคดีชี้นิคม รวบรัดจงใจปิดประชุมขัดรัฐธรรมนูญ/นิคม แย้งยันไม่ตัดสิทธิผู้สงวนคำแปรญัตติ*

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เริ่มประชุมแล้ว โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม การประชุมเริ่มต้นด้วยการแถลงปิดสำนวนคดีถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ นายนิคม เดินทางมาแถลงปิดคดีด้วยตัวเอง ที่ประชุมเริ่มแถลงจากฝ่ายผู้กล่าวหา คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นำโดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. แถลงปิดคดีว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนดให้สนช. มีอำนาจหน้าที่ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกจากตำแหน่ง การถอดถอนออกจากตำแหน่งเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจทางการเมือง ยังตัดสิทธิผู้นั้นไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง5ปี  ด้วยการพิจารณาว่าผู้นั้นมีพฤติการณ์ส่อว่าจะทุจริตทำผิดอย่างไร  ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายขออนุญาตแจกเอกสารประกอบการแถลงปิดคดี แต่ประธานในที่ประชุมไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นวาระการแถลงปิดสำนวนคดี นายวิชา แถลงปิดสำนวนชี้ให้เห็นว่า การกระทำของนายนิคม มีการรวบรัด และจงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา3วรรค2และมาตรา 291 ด้วยการสั่งปิดการประชุม แม้ว่าจะใช้เสียงข้างมาก และใช้ดุลยพินิจในฐานประธานในที่ประชุมก็ตาม แต่ยังมีผู้ขอแสดงความคิดเห็นและขอสงวนคำแปรญัตติอีกหลายคน เป็นการปิดกั้นการแสดงความเห็น จึงเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงเป็นที่มาของการยื่นถอดถอน นายวิชา แถลงว่า  ได้ให้ความสำคัญเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองที่จะต้องสูงเด่นและมีมากกว่าบุคคลอื่น

หลังจากที่นายวิชา แถลงปิดคดีเรียบร้อยแล้ว นายนิคม ผู้ถูกกล่าวหา แถลงปิดสำนวนคดี ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้ตัดสิทธิการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ขอสงวนคำแปรญัติติกว่า 50 คน  เนื่องจาก บุคคลที่ขอแสดงความคิดเห็นได้อภิปรายในมาตราอื่นๆไปหลายมาตราแล้ว จึงไม่ใช่การปิดกั้น  นายนิคม ย้ำว่า ไม่เคยจงใจที่จะรวบรัดปิดประชุม แต่ในการทำหน้าที่ประธานวุฒิสภา เป็นประธานวิปสามฝ่าย และในฐานะรองประธานสภาฯ  ปฎิบัติตามมติและยึดข้อบังคับการประชุมตลอด