+++เรื่องราคาสินค้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบการกำหนดสินค้าหรือบริการควบคุมปี 2558 แยกเป็นสินค้า 38 รายการ และบริการ 3 รายการ ที่จำเป็นใช้ในชีวิตประจำวันประชาชน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.เป็นต้นไป ได้แก่ หมวดอาหาร อาทิ กระเทียม ข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวโพด มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ไข่ไก่ สุกรและเนื้อสุกร น้ำตาลทราย น้ำมัน หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักฟอก ผ้าอนามัย กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า หมวดปัจจัยทางการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาป้องกัน หรือกำจัดศัตรูพืชหรือโรคพืช หัวอาหารสัตว์ อาหารสัตว์ หมวดวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ท่อพีวีซี หมวดขนส่ง เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ ยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุก หมวดปิโตรเลียม เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิง เม็ดพลาสติก
+++รายงานจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ แจ้งว่า ในการพิจารณาปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง ในช่วงรอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2558 ล่าสุด กกพ.เห็นควรให้เรียกเก็บในอัตรา 58.96 สตางค์ต่อหน่วย ปรับลดลงจากเดิม 10.04 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมา ค่าเอฟทีอยู่ที่ 69 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.86 บาทต่อหน่วย โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าไฟลดลงมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลงด้วย แต่จะลดลงมากน้อยเพียงใดต้องขึ้นอยู่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกด้วย หากราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้ค่าเอฟทีงวดที่เหลืออีก 2 งวดปรับตัวลดลง แน่นอน
+++เรื่องที่ต้องตามต่อ เสียงคัดค้านไม่เห็นด้วย หลังจาก ครม. อนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์ม 5 หมื่นตันจากต่างประเทศ รับประกันราคาผลผลิตปาล์มไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะมีการดำเนินการโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) รวมทั้งจะเป็นผู้จัดสรรไปให้ภาคเอกชน จะเริ่มดำเนินการในเดือน ก.พ.นี้ ทั้งนี้มีความจำเป็น หากไม่นำเข้าน้ำมันปาล์มในประเทศจะขาดแคลน ซึ่งการนำเข้าครั้งนี้จะทำให้สต็อกปาล์มน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 2 แสนตัน ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การนำเข้าเพื่อชดเชยในส่วนที่ขาดในมือของรัฐ ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือเอกชน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องราคา จะทำเพียงลอตเดียวคราวเดียวจบ ไม่กระทบชาวสวนปาล์มเลย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งชี้แจงทำความเข้าใจชาวสวนปาล์มอย่างเร่งด่วน
+++กลุ่มสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย นำโดยนายมนัส พุทธรัตน์ ประ ธานชมรมปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต และประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ได้ ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้นายกฯ ระงับการนำเข้าไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันเกษตร กรออกมาเคลื่อนไหว
+++นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่าย ชาวสวนยางพาราและสวนปาล์ม 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบายนำเข้าน้ำมันปาล์มจะทำให้ราคาปาล์มร่วงลง ทันที ยืนยันว่า จะไม่ขาดตลาดตามที่รัฐบาลอ้าง แต่หากมีการนำเข้ามา ปาล์มจะล้นตลาด
+++นายวิศาล จันทร์ทิพย์ ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด เห็นด้วยกับนโยบายนำเข้าน้ำมันปาล์มของรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้น้ำมันปาล์มขาดตลาดจริงๆ สาเหตุจากผลผลิตที่น้อยลง
+++นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภาย ใน ขอความร่วมมือไป ยังผู้บริโภค อย่ากังวลปัญหาเรื่องน้ำมันปาล์มที่ใช้บริโภคจะ ขาดแคลน ซึ่งการนำเข้าน้ำมันปาล์มจะช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำ มันปาล์มตึงตัว และน้ำมันปาล์มเป็นสินค้าควบคุมที่กรมฯ ได้กำหนดราคาจำหน่ายไว้สูงสุดใน ราคาไม่เกินขวดลิตรละ 42 บาท หากประชาชนพบว่ามีการจำ หน่ายในราคาที่ผิดปกติ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยเจรจากับจีนเรื่องความพร้อมเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลาง
+++สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงเรื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. 2557 และ ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยาน ยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ เดือน ธ.ค. 2557 เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
+++หอการค้าไทยเตรียมหารือธนาคารแห่งประเทศไทย(ธ.ป.ท.) หามาตรการดูแลค่าเงินบาท ป้องกันความผันผวน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อัตราแลกเปลี่ยนยังมีผลต่อทั้งในส่วนของเงินกู้ และพันธบัตร (บอนด์) โดยเฉพาะในส่วนของเงินกู้สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากสามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม ก็จะดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
+++นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการและโฆษกหอการค้าไทย ขอให้ทุกคนระวังและติดตามปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ทั้งค่าเงินบาท ราคาน้ำมัน และผลจากการตัดจีเอสพี เพราะมีผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และควรใช้โอกาสนี้ปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศไทยในปีนี้ น่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3-4 เช่นเดียวกับการขยายตัวของการส่งออก เนื่องจากเงินอัดฉีดในการลงทุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาลจะเริ่มทยอยออกมา
+++ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐฯ ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า และจีนเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2557 ขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 24 ปี ดาวโจนส์ปิดที่ 17,515.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,654.85 จุด เพิ่มขึ้น 20.47 จุด ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,022.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด
+++นักลงทุน จับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ ผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมอีซีบีวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์เพื่อผลักดันให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
+++นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board
+++ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่ 47.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
+++ส่วนทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 17.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.20 ดอลลาร์/ออนซ์
+++นักลงทุนยังติดตามดูผลการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่า พรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ยังคงมีคะแนนนำเหนือพรรคนิวเดโมเครซี (ND) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล
+++เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุด นัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ กรณีคนพิการฟ้องกรุงเทพ มหานคร(กทม.) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ กรณีไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการใน รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งคนพิการต่อสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2538
+++ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วันนี้ต้องจับตาการพิจารณาร่างประกาศ กสทช. เรื่องการคิดค่าบริการค่าโทรทัพท์มือถือเป็นวินาทีและการพิจารณาร่างกฎหมายร่วม 10 ฉบับ
+++สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 แถลงการณ์ ขออภัยมายังสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 (ดิจิตอลทีวี) ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นด้วยความผิดพลาดในสายการผลิตของรายการ สีสันบันเทิง และจะใช้ความระมัดระวัง ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก จากเหตุการณ์ ช่อง 3 ได้นำโลโก้ช่อง 3 มาแปะทับไมค์โลโก้ช่อง 8 ทีวีดิจิตอลของอาร์เอส ทำให้มีการนำเอาคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงในออนไลน์ และเกิดเสียงวิจารณ์ พร้อมถามไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ที่ทำเช่นนั้น
+++ร.ต.ท.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยเหตุเสาตอม่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ถล่มลงมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน หน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ หลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ นายณรงค์ จงแจ่มฟ้า ผอ.เขตหลักสี่ กล่าวว่า เกิดจากความประมาทของผู้ควบคุมงานในไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งตามปกติการก่อสร้างเสาที่สูงเกิน 10 เมตร จะมีการแบ่งเทปูนเป็นสามช่วง แต่ปรากฏว่าผู้คุมได้ให้คนงานก่อสร้างเหล็กสูงขึ้นไป เพื่อจะเทปูนลงมาทีเดียว และจะต้องมีเสาตั้งขึ้นมา เพื่อผูกสลิงยึดติดกับเสาตอม่อ แต่พบว่ากลับมีการนำสลิงไปผูกยึดไว้กับสะพานลอย เพื่อกันไม่ให้เสาตอม่อล้มลงมา โดยระหว่างเกิดเหตุนั้น มีคนงานจำนวนมากอยู่บนนั่งร้านกำลังเชื่อมเหล็กเส้นอยู่ ปรากฏว่าสลิงเกิดรับน้ำหนักไม่ไหวขาด ทำให้เหล็กเส้นของเสาตอม่อดังกล่าวล้มลงมาทับคนงานที่อยู่ข้างล่างวิ่งหนีกันกระเจิง ได้สั่งระงับการก่อสร้างเสาตอม่อดังกล่าว และเสาตอม่อที่อยู่ตรงข้าม 2 ต้นไว้แล้วอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีการตรวจสอบเสร็จสิ้น ด้าน พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งวิศวกร โฟร์แมนผู้ควบคุมงาน และคนงานก่อสร้าง คาดจะทราบผลภายใน 1-2 วัน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป