+++สถานการณ์ในญี่ปุ่น หลังนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น แถลงเรียกร้องให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ปล่อยตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 คน คือนายฮารุนะ ยูคาวะ และนายเคนจิ โกโตะ อย่างปลอดภัยและในทันที ภายหลังกลุ่มหัวรุนแรงโพสต์วิดีโอขู่สังหาร นายกฯญี่ปุ่น แถลงระหว่างเยือนนครเยรูซาเล็มของอิสราเอลระบุเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันโดยสวัสดิภาพในทันที กลุ่มไอเอส ขู่ฆ่าตัวประกันชาวญี่ปุ่นทั้งสองคนหากไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,500 ล้านบาท) ภายใน 72 ชั่วโมง แต่นายกรัฐมนตรีอาเบะ ประกาศว่า ประชาคมโลกจะไม่ยอมจำนนต่อการก่อการร้ายและจะร่วมมือกัน และยกเลิกกำหนดการเยือนตะวันออกกลางบางส่วนเตรียมประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินเหาทางรับมือภัยก่อการร้าย เป็นครั้งแรกที่ไอเอสขู่สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น หลังจากเคยตัดศีรษะตัวประกันตะวันตกมาแล้วหลายคน และเป็นครั้งแรกที่เรียกร้องเงินไม่ใช่ข้อเรียกร้องทางการเมือง หรือให้ยุติการทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายไอเอส
+++นายยูคาวะ อายุ 42 ปี ทำงานบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน ถูกลักพาตัวขณะกำลังเดินทางไปกับนักรบกบฏอีกกลุ่มหนึ่ง ใกล้กับเมืองอเล็ปโปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ส่วนนายโกโตะ วัย 46 ปี เป็นนักข่าวอิสระที่เข้าไปทำข่าวในซีเรียเมื่อปีที่แล้วก่อนถูกลักพาไปใกล้เมืองอเล็ปโปเช่นกัน นายโกโตะมีบริษัทผลิตวิดีโอชื่อ อินดิเพนเดนท์ เพรสส์ ในกรุงโตเกียว ผลิตสารคดีเกี่ยวกับตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ ป้อนสถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่น
+++ออสเตรเลียประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยการโจมตีของ ผู้ก่อการร้ายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากระดับปานกลางสู่ระดับสูงเป็นครั้งแรก ระบุว่า ขณะนี้มีพลเมืองกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งมีการติดต่อกับกับกลุ่มติดอาวุธและมีความประสงค์ที่จะก่อเหตุโจมตีในออสเตรเลีย การตัดสินเรื่องนี้เป็นผลจากการประมวลข่าวกรองและการหารือกับหุ้นส่วนหลายชาติ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ ทั่วโลก ออสเตรเลีย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ กังวลอย่างมากและเฝ้าระวังกลุ่มหัวรุนแรงและพลเมืองที่กลับจากไปร่วมรบในตะวันออกกลางกับนักรบญิฮาด
+++ขณะเดียวกัน มีการระดมทหารเพิ่มอีกหลายพันทั่วเบลเยียม ต่อเนื่องจากปฏิบัติการตรวจค้นที่พักและจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายหลายคน+++บีบีซี รายงานอ้างสำนักงานอัยการฝรั่งเศสว่า ชาย 4 คนอายุระหว่าง 22-28 ปี ได้ถูกนำตัวขึ้นศาลฐานต้องสงสัยให้การสนับสนุนนายอเมดี กูลิบาลี หนึ่งใน 3 มือปืนมุสลิมหัวรุนแรงที่โจมตีกรุงปารีส นายกูลิบาลี หนึ่งในคนร้ายก่อเหตุยิงตำรวจหญิงเสียชีวิต และสังหารตัวประกัน4ศพในร้านสะดวกซื้อชาวยิว ก่อนจะถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ทั้งนี้ทั้ง4คนมีอายุอยู่ในช่วง20ปี แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับแผนโจมตีดังกล่าว หรือรับรู้แผนการของนายกูลิบาลี +++นายลาสซานา บาธีลี ลูกจ้างชาวมาลีวัย24 ปีที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าระหว่างการบุกยึดร้านสะดวกซื้อชาวยิว ได้รับสัญชาติฝรั่งเศสแล้วเพื่อเป็นการตอบแทนความดี นายบาธีลี ซ่อนตัวลูกค้าไว้ภายในห้องเย็นใต้ดินเมื่อนายกูลิบาลี บุกจู่โจมและจับตัวประกัน หลังใบสมัครขอสัญชาติของเขาได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเป็นกรณีพิเศษ เขาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสมาแล้ว 9 ปีและยื่นขอสัญชาติเมื่อปีก่อน นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีกรุงปารีส รัฐบาลฝรั่งเศสได้ระดมกำลังทหาร-ตำรวจ 15,000 คนเพื่อดูแลความปลอดภัยทั่วประเทศ
+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบอสตันรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ ว่านายวิลเลียม อีแวนส์ ผู้บัญชาการตำรวจเมืองบอสตัน เปิดเผยว่า คนร้ายเป็นชายได้บุกเข้าไปในโรงพยาบาลบริกแฮมแอนด์ วูแมน แล้วขอพบหมอคนหนึ่งและเมื่อได้พบกับหมอในห้องตรวจของตึกชาปิโร ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ คนร้ายก็ได้ใช้อาวุธยิงใส่หมอ2นัด จากนั้นก็ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายหนีความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปตรวจทีละห้องถึงได้พบคนร้ายเสียชีวิตในห้องตรวจพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนหมอได้รับบาดเจ็บสาหัสแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อทั้งหมอและคนร้ายแต่ตำรวจก็ต้องรีบสอบสวนว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจให้คนร้ายก่อเหตุบุกเข้ามายิงหมอถึงในโรงพยาบาล
+++เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเยเมน เริ่มขึ้นมาตั้งแต่วันจันทร์ เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเยเมน เปิดเผยว่า กลุ่มกบฏชาวชีอะห์ฮูตี ระดมยิงถล่มทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงซานาเมืองหลวงของเยเมนและยังบุกทำเนียบอีกด้วย นายสเตฟาน ดูจาร์ริช โฆษกองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)แถลงว่า นายบันคี-มูนเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ตำหนิเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายกบฏชาวชีอะห์ฮูตีกับ กองกำลังพิทักษ์ประธานาธิบดีในกรุงซานา จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงในทันที และใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อฟื้นฟู
+++นายมาร์คไลออล แกรนท์ ทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ เรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากทูตยูเอ็นประจำเยเมน
+++สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสถานทูตสหรัฐฯในเยเมนว่า กลุ่มคนร้ายไม่ทราบฝ่ายกราดยิงใส่รถยนต์คันหนึ่งของสถานทูตสหรัฐฯที่ด่านตรวจแห่งหนึ่งใกล้กับสถานทูตในกรุงซานา แต่ไม่มีคนบาดเจ็บ ตอนแรกคนร้ายยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนจะกราดยิงใส่รถยนต์ดังกล่าว ซึ่งบรรทุกคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ เหตุยิงครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีปัญหาความไม่สงบที่ยืดเยื้อ
+++วันนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมนำวิกฤตยูเครนเข้าหารือด้วย หลังจากที่สถานการณ์การสู้รบที่แคว้นโดเนตสค์ทางตะวันออกของยูเครน เริ่มบานปลาย
+++เอเอฟพี รายงานอ้างนายราจัน ภัตตาไร สส.พรรคยูเอ็มแอล พรรครัฐบาลเนปาลว่าเกิดเหตุวุ่นวายในรัฐสภา เมื่อกลุ่มส.ส.ที่ฝักใฝ่ลัทธิเหมา พรรคฝ่ายค้าน ยกเก้าอี้ทุ่มใส่กันส.ส.พรรครัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจที่ส.ส.พรรครัฐบาล พยายามจะเสนอให้ที่ประชุมเร่งพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญบางมาตราอย่างรวบรัด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบาดเจ็บ 4 คน นายซูบัช เน็มบัง ประธานสภาสั่งยุติการประชุมทันที ก่อนหน้าเกิดความตึงเครียดสูงมากก่อนกำหนดเส้นตายที่รัฐสภา จะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีนี้
+++ส่วนด้านนอกของเนปาล มีการชุมนุมก่อเหตุจลาจลย่อมๆจุดไฟเผารถบัสและรถแท็กซี่ ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงก่อนเส้นตายที่ต้องเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โรงงาน ร้านค้า โรงเรียน และระบบขนส่งมวลชนทั่วประเทศ ปิดทำการหรือหยุดให้บริการตามคำเรียกร้องของกลุ่มนิยมลัทธิเหมา ขณะที่ ท้องถนนส่วนใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุที่เคยมีปัญหาจราจรติดขัด กลับโล่งกว่าทุกวันแม้เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ร่วมประท้วงโดยไม่ไปทำงาน ขณะที่ทางการต้องกระจายกำลังตำรวจกว่า 6,000 นายในเมืองหลวงเพื่อรองรับความเป็นไปได้ที่อาจเกิดสถานการณ์รุนแรงใดๆ
+++นักผจญเพลิงไต้หวัน 6คน อายุราว20ปีเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้อาคารแห่งหนึ่งแล้วเกิดระเบิดไฟลุกท่วมทันควันทำให้บางส่วนของอาคารพังถล่มลงมาทับพวกเขาขณะอยู่ในจุดที่เป็นลานโบว์ลิ่งในเขตเต้าหยวน ทางเหนือของไต้หวัน อาคารสถานบริการแห่งนี้ ยังไม่เปิดให้บริการมีนักผจญเพลิงราว90คนรุดมาช่วยกันดับไฟในที่เกิดเหตุแต่ก็มีนักผจญเพลิง 2คนที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวนแต่ก็แสดงความเสียใจที่เกิดการสูญเสียนักผจญเพลิงขณะปฏิบัติหน้าที่
+++คณะสอบสวนที่กำลังตรวจสอบกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเครื่องบินแอร์เอเชียที่ตกในทะเลชวากำลังวิเคราะห์ว่า สาเหตุเกิดจากความผิดพลาดของนักบินหรือปัญหาของเครื่องบิน หลังจากที่ได้ตัดความเป็นไปได้เรื่องก่อการร้ายออกไปแล้ว ก่อนที่จะเผยแพร่รายงานสอบสวนเบื้องต้นในวันที่ 28 มกราคม ผู้สอบสวนคนหนึ่งกล่าวว่า ผลการวิเคราะห์กล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินเบื้องต้นไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่ามีการก่อการร้าย เพราะไม่ได้ยินเสียงคนอื่นนอกจากนักบินและไม่ได้ยินเสียงระเบิด คณะสอบสวนจึงมุ่งที่ไปที่ปัจจัยด้านเครื่องบินและนักบินแทน และกู้ศพได้แล้ว 53 ศพจากที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 162 คน