อนุทินเผย พรุ่งนี้ (20 มี.ค.)วัคซีนซิโนแวค 8 แสนโดสถึงไทย พร้อมเปิดเผยบริหารจัดการวัคซีน

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.64) วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค จำนวน 800,000 โดส จะเดินทางมาถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามแผนและกำหนดการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ พร้อมกับจะกระจายไปฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดต่างๆ เพื่อควบคุมโรค และสร้างความเชื่อมั่นใจการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

          สำหรับแผนบริหารจัดการวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุข เตรียมการไว้ คือ  

- วัคซีนซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดส

ล็อตที่ 1 จำนวน 200,000 โดส เข้ามาแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.พ.64 และกระจายไปฉีดกลุ่มเป้าหมาย เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

ล็อตที่ 2 จำนวน 800,000 โดส เข้ามาตามแผนในวันที่ 20 มี.ค.64

ล็อตที่ 3 จำนวน 1,000,000 โดส จะเข้ามาในเดือน เม.ย.64

- วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 26 ล้านโดส

ล็อตที่ 1  จำนวน 6 ล้านโดส จะเข้ามาในเดือน มิ.ย.64

ล็อตที่ 2 จำนวน 10 ล้านโดส จะเข้ามาในเดือน ก.ค.64

ล็อตที่ 3 จำนวน 10 ล้านโดส จะเข้ามาในเดือน ส.ค.64

-วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 35 ล้านโดส จากการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์  พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.64 เป็นต้นไป

          โดยกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีน แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

ระยะแรก เมื่อวัคซีนมีปริมาณจำกัด จะให้ในบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน , ในกลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว,ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย

ระยะที่สอง เมื่อวัคซีนมีมากขึ้นและเพียงพอ จะกระจายไปยังบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่อื่นๆที่นอกเหนือจากด่านหน้า , ผู้ประกอบการ พนักงาน และผู้ประกอบอาชีพภาคการท่องเที่ยว,ผู้ที่ต้องเดินทางระหว่างประเทศ เช่น นักบิน/ลูกเรือ นักธุรกิจระหว่างประเทศ,ประชาชนทั่วไป,นักการทูต เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ นักธุรกิจต่างชาติ คนต่างชาติที่พำนักในไทยระยะยาว และแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการและกลุ่มอื่นๆที่จำเป็นและเหมาะสม

          ส่วนจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-18 มี.ค.64 มีทั้งหมด 62,941 คน แบ่งเป็น

- บุคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุขและอาสาสมัคร 31,066 คน 

- เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 7,147 คน

- บุคคลที่มีโรคประจำตัว 4,182 คน 

- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป  35 คน 

- ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 20,511 คน

          ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของวัคซีนพาสปอร์ต โดยก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศได้หารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  ซึ่งหากได้ข้อสรุปแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะทำแผนดำเนินการเพื่อเสนอหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่มีใบรับรองพาสปอร์ตวัคซีน ไม่ได้หมายความว่า จะปลอดโรค แต่เป็นการรับรองว่าได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 โดส ซึ่งขณะนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นเท่านั้น