ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 08.30น.วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2564

19 มีนาคม 2564, 10:01น.



กรมควบคุมโรค เผย 3 ปัจจัยที่ทำให้คนติดเชื้อ ระยะห่าง-ระยะเวลา-การสวมหน้ากาก



          สถานการณ์การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ตลาดย่านบางแค นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง ความเสี่ยงจากการสัมผัสพ่อค้าแม่ค้าที่ติดโควิด-19 ว่า ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับ ระยะห่าง ระยะเวลาที่พบ และการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งถ้าทั้ง 2 ฝ่ายสวมหน้ากากอนามัย แม้จะเป็นหน้ากากผ้า ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมาก จากเสี่ยงสูงก็อาจเป็นเสี่ยงต่ำ หากเข้าไปซื้อข้าวของในเวลาไม่นาน มีการเว้นระยะห่าง หยิบจับส่งข้าวของแล้วใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างก่อนและหลังเข้าพื้นที่ หากทำอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเมื่อกลับบ้านก่อนหยิบจับสิ่งของก็ล้างมือ ถือเป็นการป้องกันที่ดี



กทม.พบติดเชื้อรายใหม่ 21 คน รวม1,400 คน



          กรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อในพื้นที่ กรุงเทพฯ ตัวเลขเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 18 มี.ค.64



-ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21 คน จากการค้นหาเชิงรุก 1,659 คน ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,400 คน (รอข้อมูลผู้ป่วยจากกรมควบคุมโรค 239 คน ) และมีการค้นหาเชิงรุกไปแล้วรวม 79,751 คน



-ผู้ติดเชื้อรายใหม่ จากการค้นหาเชิงรุก 1 คน เป็นต่างด้าว จากการไปรักษาที่โรงพยาบาล 20 คน เป็นคนไทยทั้งหมด



-การดูแลรักษา อยู่ระหว่างการรักษาโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ 288 คน รักษาหายแล้ว 1,107 คน



-เสียชีวิตสะสม 5 ราย



-ส่งต่อ 1 คน



          การค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เชิงรุกสะสม ในพื้นที่ 6 เขต เขตภาษีเจริญ บางแค หนองแขม บางบอน จอมทอง และเขตบางขุนเทียน  วันที่ 17 มี.ค.64



-โรงงานที่ค้นหาเชิงรุกรวม 128 แห่ง



-แรงงานที่ค้นหาเชิงรุก 21,358 คน



-ผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 77 คน



-ร้อยละของการติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก ร้อยละ 0.35



เขตที่มีการตรวจค้นมากที่สุด



1.เขตบางแค :ค้นหาเชิงรุกในโรงพยาบาล 27 แห่ง พนักงานที่ได้รับการตรวจ 5,089 คน พบผู้ค้นหาเชิงรุกติดเชื้อ 10 คน คิดเป็นร้อยละ 0.20



2.เขตบางขุนเทียน :ตรวจโรงงานเชิงรุก 25 แห่ง ตรวจเชิงรุกในแรงงาน 4,579 คน พบผู้ติดเชื้อ 12 คน คิดเป็นร้อยละ 0.26



3.เขตหนองแขม: ตรวจโรงงานเชิงรุก 25 แห่ง ตรวจเชิงรุกในแรงงาน 2,088 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ



ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงตลาดบางแคแล้วรวม 1,666 คน



          นายชวินทร์  ศิรินาค  รองปลัดฯ กทม. เปิดเผยถึงผลการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงย่านตลาดบางแคเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเป็นการฉุกเฉิน ในวันที่ 18 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันที่สองของการให้บริการด้วยหน่วยบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) มีจำนวนผู้ลงทะเบียนคัดกรอง 1,000 คน ได้รับการวัคซีน 961 คน ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดจำนวน 39 คน เนื่องจากบางรายเปลี่ยนใจไม่ขอรับวัคซีน บางรายมีความดันโลหิตสูง หรือมีข้อห้ามตามดุลพินิจของแพทย์  ในจำนวนที่ผู้ได้รับวัคซีนวันนี้มีผู้มีอาการไม่พึงประสงค์ 3 ราย ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง เช่น หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ และเป็นปกติเมื่อได้นั่งพัก 30 นาที



          เมื่อรวม 2 วัน ได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงย่านตลาดบางแคไปแล้ว 1,666 คน โดยยังคงให้บริการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. -18.00 น. ณ บริเวณตลาดสิริเศรษฐนนท์ เขตบางแคโดยจะฉีดวัคซีนซิโนแวคให้กับผู้ค้าและแรงงานในตลาดที่ผ่านการคัดกรองว่ามีสัมผัสเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติ จำนวนประมาณ 6,000 คน ซึ่งในเบื้องต้นสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้วันละ 1,000 คน และสามารถเพิ่มเติมได้ในกรณีที่มีคนมารับบริการจำนวนมาก สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดในรอบนี้จะฉีดเข็มที่ 2 อีกครั้งช่วงวันที่ 7-11 เม.ย.64



CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ท กรุงเทพมหานคร



อังค์ถัด ประเมินเศรษฐกิจโลกปีนี้ เติบโต 4.7%



          รายงานของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) มีประเทศสมาชิก 194 ประเทศ และมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเมินว่า เศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 4.7% จากปัจจัยหลัก คือ การฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินคาด ของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หลังการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 และรัฐบาลอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



          รายงานของอังค์ถัด กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 63 คาดว่า จะดำเนินต่อไปตลอดปีนี้ แม้ว่า จะมีความไม่แน่นอน ที่ไม่อาจทำนายได้จำนวนมาก



          รายงานขนาด 22 หน้ากระดาษของอังค์ถัด กล่าวว่า โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกยาวนาน รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องสานต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจ และความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกคือ การกลับคืนสู่มาตรการเข้มงวดอย่างผิดทิศทาง



หญิงชาวจีนวัย 76 ปี ถูกชายผิวชาว ชกที่เบ้าตา เจ็บสาหัส ที่ซานฟรานซิสโก



          เกิดเหตุทำร้ายหญิงสูงอายุชาวจีนในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ทำให้มีการพูดถึงกันมาก จากคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ทำให้เห็นว่า ผู้ที่บาดเจ็บ คือ นางเสี่ยว เจิ้น เซี่ย วัย 76 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากถูกชายผิวขาวชกเข้าที่ตา ทำให้บวม จนตาปิดและยังมีเลือดออกจนต้องซับเลือด



          หลี่ ลูกสาวของนางเซี่ย เล่าให้ฟังว่า อาศัยอยู่ในซานฟรานซิสโก  เป็นเวลา 26 ปี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มี.ค.64 ขณะที่แม่ของเธอ ยืนอยู่บริเวณมาร์เก็ต สตรีท กำลังรอสัญญาณไฟที่จะข้ามถนน มีชายคนหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาทำร้าย ชกเข้าที่ดวงตา ทำให้นางเซี่ย รู้สึกตกใจและตอบโต้กลับคว้าไม้ที่อยู่แถวนั้น ฟาดหน้าชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้แม่ของเธอยังรู้สึกหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



          ในจุดเกิดเหตุ นางเซี่ย พยายามที่จะบอกกับคนแถวนั้นว่าถูกชายคนดังกล่าวทำร้าย และถามกลับไปที่ชายคนดังกล่าวว่าทำไมถึงมาทำร้าย ตำรวจไม่ได้เปิดเผยแรงจูงใจในการทำร้ายและไม่ชัดเจนว่าเชื้อชาติของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกทำร้ายหรือไม่


ข่าวทั้งหมด

X