*โหวตลับถอดถอนนิคม/สมศักดิ์/ยิ่งลักษณ์,สส.เนเปาลทุ่มเก้าอี้ในสภาถกปรองดอง*

20 มกราคม 2558, 20:16น.


สรุปข่าว 19.35 น



+++การประชุมร่วมระหว่างคสช.และ ครม. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการประชุมครั้งแรกในปี 2558 สถานการณ์ความมั่นคงในภาพรวม ขณะนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุและความเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนความเป็นห่วงของกลุ่มที่จะมาสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันพิจารณาสำนวนคดีถอดถอนนั้น ยังไม่มีรายงานสถานการณ์ความรุนแรง แต่ต้องติดตามดูสถานการณ์ เพราะขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดความวุ่นวาย คสช.ได้รายงานถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ประชุมได้เสนอความคิดเห็นหลากหลาย นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระหว่างกองทุนหมู่บ้าน ให้ลงพื้นที่อย่างเหมาะสม ด้านสาธารณสุขเน้นการดูแลสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน และประชาชน ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนของรัฐ



+++นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ พร้อมด้วยนายยุทธนา ทัพเจริญโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิปสนช.) แถลงถึงขั้นตอนในการพิจารณาถอดถอนนายนิคมไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กับ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในวันที่ 21 ม.ค.นี้ ที่ประชุมสนช.ได้กำหนดให้แถลงปิดสำนวนของนายนิคมและนายสมศักดิ์ โดยนายนิคมยืนยันว่า จะมาแถลงปิดสำนวนด้วยตัวเอง ขณะที่นายสมศักดิ์แจ้งว่า จะไม่มาส่วนในวันที่ 22 ม.ค.เป็นการแถลงปิดสำนวนของน.ส.ยิ่งลักษณ์  



++++จากนั้นในวันที่ 23 ม.ค.จะเป็นการลงมติทั้งหมด โดยจะเป็นวาระการลงมติถอดถอนนายนิคมกับนายสมศักดิ์ก่อน ซึ่งขั้นตอนในการลงคะแนนจะเป็นการลงคะแนนลับ โดยสมาชิกเข้ากาบัตรในคูหา ซึ่งจะได้บัตรลงคะแนน 2 ใบ เพื่อลงคะแนนไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้กากบาทลงในบัตรลงคะแนน ว่าจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอนหรืองดออกเสียง จากนั้นก็จะตั้งสมาชิกจำนวน 10 คนเพื่อเป็นกรรมการในการนับคะแนน และเมื่อประกาศผลการลงมติของนายนิคม และนายสมศักดิ์แล้ว ก็เข้าวาระการลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นลำดับถัดไป ซึ่งการลงมติของทั้ง 3 สำนวนดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน3 ชั่วโมง สำหรับในวันที่ 21 ม.ค.นี้ยังมีวาระการพิจารณากำหนดการแถลงเปิดสำนวนของอดีต ส.ว. 38 คน ซึ่งถูกชี้มูลจาก ป.ป.ช. กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว.โดยมิชอบ



+++การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราในภาค 3 หลักนิติธรรม ศาล และองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงข่าวว่า มีการบัญญัติเพิ่มในมาตรา 10 ระบุให้ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลอื่นนอกจากศาลรัฐธรรมนูญและศาลทหาร มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว กำหนดอายุพ้นจากราชการจากเดิม 70 ปี เป็น 65 ปี ส่วนผู้พิพากษาหรือตุลาการอาวุโส ยังคงดำรงตำแหน่งได้จนครบอายุ 70  ปี



+++สำหรับการพิจารณาส่วนที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมี 9 มาตรา ยังคงให้เป็นระบบศาลคู่คือศาลรัฐธรรมนูญและศาลยุติธรรม ส่วนคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมยังไม่มีมติว่าจะให้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากสมัชชาพลเมืองเข้ามาเป็นกรรมการหรือไม่ ขณะที่การดำเนินการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการภายใน 30 วัน หากวุฒิสภาไม่เห็นชอบให้ส่งกลับไปให้คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้ง



+++ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง วันนี้  นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณากรณีฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ทำให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องดังกล่าวได้ขอเลื่อนการส่งข้อมูลให้ที่ประชุม กกต.เพราะยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่แล้วเสร็จ ส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้ต้องค่อย ๆ ทำและต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเกี่ยวข้องกับคนหลายฝ่าย ส่วนจะเลื่อนไปถึงเมื่อใดนั้น ก็คงต้องเลื่อนไปจนกว่าคณะทำงานจะรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน นอกจากนั้นที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขการจัดการเลือกตั้งตามที่ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ซึ่งจัดทำโดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญคณะที่ 8ของคณะกรรมาธิการยกร่างรับธรรมนูญ  ซึ่งมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน แบ่งเป็น 10ขั้นตอนรวม 43ประเด็น  เช่น กรณียุบสภา ให้แยกการออกพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งคนละฉบับ   ส่วนก่อนมีพระราชกฎฤษฎีกาเลือกตั้ง เห็นควรให้แก้ไขระยะเวลาการห้ามทำผิดกฎหมายเลือกตั้งขยายเป็น 180วัน  สำหรับการสืบสวนสอบสวนกรณีทุจริตนั้น แก้ไขกฎหมายให้กกต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีอำนาจตรวจค้น เรียกพยาน มีมาตรการคุ้มครองพยาน ใช้สำนวนกกต.เป็นสำนวนหลักในการดำเนินคดีเลือกตั้ง เพิ่มมาตรการให้เงินสินบนนำจับแก่ผู้ชี้ช่องเบาะแสจนสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ขยายระยะเวลาสอบสวนก่อนการประกาศรับรองผลจาก 30วัน เป็น 60วัน แก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้การสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ทั้งก่อนและหลังประกาศรับรองผลใช้มติเสียงข้างมากทุกกรณี



+++ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบกำหนดสินค้า หรือบริการควบคุมปี 58 แยกเป็นสินค้า 38 รายการ และบริการ 3 รายการ ที่จำเป็นใช้ในชีวิตประจำวันประชาชน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.นี้   ทั้งนี้สินค้าและบริการควบคุมทั้ง 41 รายการ คือ หมวดอาหาร ได้แก่ กระเทียม ข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวโพด มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ไข่ไก่ สุกรและเนื้อสุกร น้ำตาลทราย น้ำมัน และไขมันที่ได้จากพืชหรือสัตว์ทั้งที่บริโภคได้หรือไม่ได้ ครีมเทียมนมข้นหวาน นมข้น นมคืนรูป นมแปลงไขมัน นมผล นมสด แป้งสาลี ส่วนบริการ มี 3 รายการ คือ การให้สิทธิในการเผยแพร่งานลิขสิทธิ์เพลงเพื่อการค้า บริการรับฝากสินค้าหรือบริการให้เช่าสถานที่เก็บสินค้า บริการทางการเกษตรรายงานข่าว กล่าวว่า ในการกำหนดสินค้าควบคุมครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้เสนอให้ควบคุมสบู่ และแชมพู ด้วย แต่ที่ประชุมเห็นว่า สินค้าทั้งสอง ประเภท มีการแข่งขันในตลาดอยู่แล้ว และมีราคาที่เหมาะสม จึงไม่จำเป็นต้องเสนอมาเป็นสินค้าควบคุม



+++ตำรวจได้ควบคุมตัว นางระดม มัทธุจัด มารดาของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดียักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ไปขอหมายฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังนางระดม ให้ปากคำตามหมายเรียก แต่คำให้การไม่เป็นประโยชน์ และปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า นายกิตติศักดิ์นำเงินยักยอกจาก สจล. ไปให้ ก่อนนางระดมจะนำไปฟอกเงินด้วยวิธีซื้อที่ดิน ทองคำ แล้วนำขายแบบผิดปกติ ก่อนคืนเงินให้นายกิตติศักดิ์ รวมมูลค่านับ 100 ล้านบาท   ทั้งนี้พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกิน 3  ปี และมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท  เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันนี้ไม่มีญาติของนางระดม ผู้ต้องหามายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตังนางระดมไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป



+++ความคืบหน้ากรณีอุ้มบุญ‘น้องแกมมี”และมีอาการบกพร่องทางสมอง หรือ ดาวน์ซินโดรม จนถูกสองสามีภรรยาชาวออสเตรเลียที่ว่าจ้างให้ ‘อุ้มบุญ”ไม่ได้ดูแล  ในที่สุดน้องแกมมี่ ปัจจุบัน อายุขวบกว่า ได้รับสิทธิเป็นพลเมืองออสเตรเลียแล้ว ซึ่งจะทำให้สามารถได้รับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของประเทศออสเตรเลีย และถือหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต ในฐานะเป็นชาวออสเตรเลีย เพื่อจะได้รับสวัสดิการรักษาฟรีตลอดชีพ



+++นายราจัน ภัตตาไร สส.พรรคยูเอ็มแอล พรรครัฐบาลเนปาลว่าเกิดเหตุวุ่นวายในรัฐสภาในวันนี้ เมื่อกลุ่มสส.ที่ฝักใฝ่ลัทธิเหมา พรรคฝ่ายค้าน ยกเก้าอี้ทุ่มใส่กันสส.พรรครัฐบาล มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบาดเจ็บ 4 คน ระหว่างเกิดเหตุชุลมุน สส.พรรคฝ่ายค้านยังขว้างไมค์โครโฟนใส่สส.2 คนของพรรครัฐบาลด้วย ทำให้นายซูบัช เน็มบัง ประธานสภาสั่งยุติการประชุมทันที ก่อนหน้าเกิดความตึงเครียดสูงมากก่อนกำหนดเส้นตายที่สภาจะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีนี้ 



+++กลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (IS) ขู่สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 ราย ภายใน 72 ชั่วโมง พร้อมกับเรียกค่าไถ่ตัวประกัน 200 ล้านดอลลาร์ ซึงเป็นมูลค่าเท่ากับวงเงินที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะให้เงิน 200 ล้านดอลลาร์แก่กลุ่มประเทศที่ปฏิบัติภารกิจในการต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์   ด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นจะไม่ยอมจำนนต่อคำเรียกร้องของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรีย ญี่ปุ่นจะประสานงานกับนานาชาติเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกัน



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากเงินเยนที่อ่อนค่าได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่นักลงทุนขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 352.01 จุด ที่ 17,366.30 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดทะยานขึ้นในวันนี้ หลังจีนเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2557 ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์ เพิ่มขึ้น 212.67 จุด ที่ 23,951.16 จุด



++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,535.09 จุด ลดลง 0.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,554.91 ล้านบาท

ข่าวทั้งหมด

X