วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าซุงทักษิณาราม ต.ไม้ตรา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า พบหญิงหลงมาที่วัด ลักษณะ ผอม ตัวเล็ก ผิวคล้ำดำกร้านแดด ผมสั้นเกรียนคล้ายกับเพิ่งสึกจากแม่ชี มีอาการหลงลืม เนื้อตัวมอมแมม พูดคุยไม่รู้เรื่อง ในตัวมีซองยาลดกรดในกระเพาะอาหารของโรงพยาบาลบางไทร ระบุที่อยู่ผู้ป่วย บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ตำบลใหม่ อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อลองซักถามพูดคุยบอกได้ว่ามีหลานชื่อ สมพร สูกกลาง
พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปตามที่อยู่บนซองยา พบนาย ทองสุข กรกลาง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่15 ต.ใหม่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ให้ข้อมูลว่า หญิงคนนี้ได้ออกจากหมู่บ้านมานานมากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะไปที่บ้านหลังนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากญาติ
ขณะเดียวกัน จส.100 ได้สอบถามไปที่ โรงพยาบาลบางไทร ทราบว่า เมื่อวานนี้(19 ก.พ.58 )หน่วยกู้ภัยและมูลนิธิเป็นผู้พาตัวมารักษาที่โรงพยาบาล และเข้าใจว่าเป็นคนต่างด้าว
จนเย็นวันที่ 20 ก.พ.58 ผู้ใหญ่บ้านทองสุข ได้แจ้งข้อมูลกลับมาว่า หญิงพลัดหลงคนดังกล่าว ชื่อ นางเทียม นบกลาง มีครอบครัวและบุตร 2 คน ปัจจุบันคาดว่านางเทียม อายุ 58 ปี เพราะได้หายออกจากหมู่บ้านไป 25 ปี ขณะนั้นนางเทียมอายุ 33 ปี และบุตรสาวอายุ 15 ปี(ปัจจุบันบุตรสาวอายุ 40 ปี) หลังจากที่นางเทียมหายไปโดยไม่ติดต่อกลับที่บ้านเลย ทำให้ถูกถอดชื่อจากทะเบียนราษฎร์ กลายเป็นบุคคลสูญหาย เมื่อทราบข้อมูลแล้วพระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี จึงให้นางเทียม พักอยู่ที่วัดชั่วคราวก่อนที่จะพากลับบ้าน
ต่อมา วันที่ 23 ก.พ.58 พระสมุห์ชวลิตกิตติเมธี ได้พานางเทียมเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครราชสีมา ท่ามกลางความดีใจของญาติทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุตรสาวที่ไม่คิดว่าจะได้พบแม่อีกครั้งหนึ่ง
ทางด้านผู้ใหญ่บ้านทองสุข กล่าวว่า บุตรสาวและญาติจะไปดำเนินการนำชื่อ นางเทียม เข้ามาในทะเบียนราษฎร์อีกครั้ง โดยใช้เอกสารราชการประกอบด้วยใบมรณะบัตรของบิดา ,มารดานางเทียมซึ่งยังมีชีวิตอยู่, ใบสูติบัตรบุตรและ ข้าราชการ 1 คน เพื่อไปยืนยันสถานะบุคคลที่ ที่ว่าการอำเภอโนนสูง จ.นครราชสีมา