จากสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่ต้องหายใจเข้าไปทุกวินาที นอกเหนือจากผู้คนต่างหาหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองมาใส่เพื่อกรองอากาศแล้ว ยังหมั่นติดตามรายงานคุณภาพอากาศประจำวันอย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมอยู่ 3 แหล่งด้วยกัน อาทิ
1) Air4thai จากกรมควบคุมมลพิษ
2) BangkokAirQuality สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
3) AirVisual ผู้ขายอุปกรณ์วัดคุณภาพอากาศจากต่างประเทศ
แต่ที่ชาวเน็ตต่างต้องประหลาดใจไม่น้อยคือ เมื่อดูรายงานของแต่ละแห่งผ่านทางเว็บไซน์และแอปพลิเคชั่นแล้วกลับไม่ตรงกัน ทั้งที่เป็นช่วงเวลาเดียวกัน และสถานที่เดียวกัน
ทางด้าน รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า เป็นเพราะมาตรฐานการคำนวณที่ไม่เท่ากัน
ทางด้านนายสรรเสริญ เรืองฤทธิ์ หัวหน้ากลุ่มงานระบบโทรมาตร สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในท้ายที่สุดประชาชนคงคาดหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวให้ข้อมูลที่ถูกต้องหรือออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง มิเช่นนั้นจะยังคงเกิดคำถามที่ว่า... แล้วจะให้เชื่อใคร..? เราควรใช้มาตรฐานไหน..? แต่ที่แน่คำตอบที่ทุกคนมีวันนี้ คือ การลดปัจจัยการก่อให้เกิดมลพิษ และต้องใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเพื่อป้องกันตนเองต่อไป