ลุยทุ่งหญ้าสะวันนา-หาดเขาหน้ายักษ์ ‘บ้านท่าดินแดง’ เติมใจให้เต็มที่ จ.พังงา

        บางคนบอกว่ากรุงเทพฯ วุ่นวาย อยากปลีกตัวเองออกมาและโยนทิ้งไว้ข้างหลัง แต่สำหรับเรากรุงเทพฯ มีความน่ารัก และถ้ามีเวลาอยากพักผ่อน เราแค่อยากลาออกจากการคนกรุงเทพฯ ชั่วคราว ไปหาที่เงียบสงบแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ผืนป่า ทะเล หุบเขา ความเรียบง่ายของวิถีชุมชนในชนบทห่างไกล และหากบังเอิญตอนนี้มีคนเดินมาถามว่าจะลาออกจากการเป็นคนกรุงเทพฯ ชั่วคราวไปที่ไหนดี เราจะตอบแบบไม่เปลืองเวลาคิดเลยว่า “บ้านท่าดินแดง จ.พังงา”





        บ้านท่าดินแดง ตั้งอยู่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในแหลมมีทางน้ำสายหลักชื่อคลองทับละมุ และคลองหินลาดไหลออกทะเลอันดามัน ที่นี่มีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้สกุลโกงกางปกคลุมหนาแน่นตลอดแนวฝั่งคลอง ผู้คนประกอบอาชีพการเกษตรปลูกยางพาราและผักไฮโดรโปรนิกส์ไว้กินหรือขาย ซึ่งเราลองชิมแล้วต้องกดว้าว ขอออกปากชมในความสด สะอาด อร่อย ไม่เป็นแพ้ผักสลัดที่เสิร์ฟกันในโรงแรมหรูเลยทีเดียว









        พี่ไฮริส ประธานชุมชน เล่าความหลังให้เราฟังด้วยสำเนียงทองแดงว่า อดีตชาวบ้านท่าดินแดงเคยประกอบอาชีพทำเหมืองแร่ดีบุก และยังมีร่องรอยปรากฏให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมการสาธิตจากโต๊ะ (ย่า หรือ ยาย) อายุ 80 ปี ในชุดสีสันสะสุดตา มาร่อนแร่ให้ชมด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง จากนั้นเราจะเดินทะลุป่าชุมชนเนื้อที่ 80 ไร่ ไปทำกิจกรรมพายเรือคายัค ชมความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำ ป่าชายเลน และการทำประมงพื้นบ้าน









        เราใช้เวลาบนเรือคายัคประมาณ 20-25 นาที เริ่มออกตัวจากบึงใกล้ป่าชุมชน ตัดเข้าคลองสายเล็ก แล้วไปทะลุออกคลองสายใหญ่ที่ไหลส่งสู่ทะเลอันดามัน เราเพลิดเพลินไปกับทุกสิ่งที่ตาแลเห็น ทั้งสีเขียวจากต้นโกงกางและสีเงินที่สะท้อนบนผืนน้ำ “น่าอิจฉาคนบ้านท่าดินแดง” เราพูดในใจ แต่ความสุขยังไม่จบ เรายังมีนัดกับเรือหัวโทงบนจุดตัดคลองหินลาด เพื่อโดยสารไปยังหาดเขาหน้ายักษ์ กิจกรรมการผจญภัยของเราของคงดำเนินต่อไป









        บนเรือหัวโทงเรารู้สึกเหมือนเป็นลูกทะเล และอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงเรื่องราวใน The Old Man and the Sea วรรณกรรมสุดคลาสสิกของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ แต่เป็นฉบับปักษ์ใต้บ้านเรา ใช้เวลาโดยสารประมาณ 15 นาที จะถึงท่าเกลือ จากจุดนี้ต้องเดินตัดผ่านบริเวณที่เรียกว่า ทุ่งหญ้าสะวันนา อีก 700 เมตร ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม ได้แก่ การถ่ายภาพกับทุ่งหญ้าที่จะมีสีเหลืองทองอร่ามเต็มที่ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน







        ระหว่างทางเราเห็นดงเสม็ดขาวยืนต้นบิดเบี้ยวเป็นทิวอยู่ไกล ๆ มันงดงามเหมือนฝีแปรงของวินเซนต์ แวน โก๊ะ พุ่มต้นทุก็ออกดอกสีม่วงแกมชมพูมองแล้วเย็นตา เราออกเดินแบบไม่เร่งรีบมารู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคลื่นดัง ครืน...ครืน ซัดกระทบฝั่ง หาดเขาหน้ายักษ์กำลังรอเราอยู่เบื้องหน้าแล้ว ช่วงที่เราไปถึงมีเมฆฝนพัดมาปกคลุมเล็กน้อย แต่เมื่อเคลื่อนผ่านไป แดดออก ทะเลก็อวดสีเขียวมรกตพร้อมเม็ดทรายสีขาวนวลให้เราได้เห็นอย่างเต็มตา







        หาดเขาหน้ายักษ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง มีชายหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 15 กม. สวยงามพอเทียบได้กับเกาะสิมิลันและเกาะสุรินทร์เลยทีเดียว สุดหาดด้านขวามีโขดหินชั้นลวดลายงดงาม สามารถปีนขึ้นไปชมหาดมุมกว้าง ถ่ายภาพกับโขดหิน รับรองว่าได้ภาพเก๋ไม่แพ้หาดอื่นแน่นอน สำหรับการมาเที่ยว จ.พังงา ควรจัดเวลามาสัก 3 วัน 2 คืน มาเที่ยวบ้านท่าดินแดง ชมวิวเสม็ดนางชี ล่องเรือกอนโดล่าที่ท่าเรือบ้านหินร่ม ออกเดินทางสู่เกาะพระทอง ดำน้ำที่เกาะไข่ เกาะระ ชมคลองสังเน่ห์ Little Amazon และไปยลย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า ฯลฯ









        หากคุณสนใจมาตะลุยเที่ยวแบบนี้ แต่มีคำถามเกี่ยวกับการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหารขึ้นชื่อ หรือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่น ๆ สามารถสอบถามได้ที่ ททท.สำนักงานพังงา โทร. 0 7648 1900-2

#ป๋าแนทเที่ยวเตร่