ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563

03 เมษายน 2563, 06:08น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563



ยอดผู้ติดเชื้อ โคโรนา ไวรัส แตะระดับ 1 ล้านคนแล้ว



           ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านคน ในวันนี้ (ข้อมูล 04.00 น.) ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 52,771 ราย เว็บไซต์ติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 แบบออนไลน์ ของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ระบุว่า สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้ทะลุหลัก 5,781 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยอมรับว่า สถานการณ์จะต้องเลวร้ายลงไปอีก แต่ยืนยันว่า คนอเมริกันจะไม่สิ้นหวังหรือพ่ายแพ้ให้แก่ความหวาดกลัว

           นายเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในการแถลงวันพุธ (1เม.ย.) ว่า ในช่วง 5 สัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีการเพิ่มขึ้นเกือบถึงระดับเลขชี้กำลัง และไวรัสระบาดในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในสัปดาห์ที่แล้ว และภายใน 2-3 วันนี้จะถึง 50,000 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อก็จะแตะหลัก 1 ล้านคน



         องค์การอนามัยโลก ยังได้ร่วมกับองค์การอาหารและยา (เอฟเอโอ)และองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ออกแถลงการณ์ร่วมเตือนว่า การแตกตื่นซื้ออาหารอาจกระตุ้นให้หลายประเทศออกมาตรการจำกัดการส่งออกและทำให้ตลาดอาหารโลกเกิดการขาดแคลน



          ด้านยุโรปนั้น ฝรั่งเศสรายงานยอดติดเชื้อขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อิตาลี สเปน อยู่ที่ 84,788 คน มากกว่า จีนประเทศต้นต่อของการแพร่ระบายซึ่งหล่นมาอยู่ในอันดับ 5  ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต อิตาลี ยังอยู่ในอันดับ 1 อยู่ที่ 13,915 ราย ตามมาด้วยสเปน ที่ 10,348 ราย และ ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ 5,387 ราย   



           ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเลเซียยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดด้วยตัวเลข 3,116 คน ในจำนวนนี้เป็นเคสใหม่ที่รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ 208 คน ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อใหม่ 322 คน เป็น 2,633 คน และผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็น 322 รายและไทย อันดับ 3 มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,875 คน เสียชีวิต 15 ราย รักษาหาย 505 คน



อินเดียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากการชุมนุมทางศาสนา



          อินเดีย แจ้งเตือนให้ชาวมุสลิมในประเทศจำนวนหลายพันคนที่เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่ม ทาบลิจี ยามาอัต (Tablighi Jama’at) เมื่อเดือนที่แล้ว ที่กรุงนิวเดลี เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้าสู่การกักตัวหลังจากที่การชุมนุมของกลุ่มเดียวกันนี้ในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ทางการอินเดียรายงานในวันนี้ (2 เม.ย.) ว่าเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) อินเดียมีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ราย ซึ่งเป็นการเสียชีวิตจำนวนมากที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่อินเดียรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรก และมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,965 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการติดตามชาวมุสลิมจำนวน 9,000 คนที่เข้าร่วมการชุมนุม โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ มีทั้งผู้ที่เข้าร่วมงานโดยตรง และครอบครัวกับผู้ที่ติดต่อกับผู้เข้าร่วมงาน บ่งชี้ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงตามที่ทางการอินเดียมีความกังวล



          ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้ประกาศให้ชาวอินเดียอยู่ในที่พักเป็นเวลา 3 สัปดาห์คือจนถึงกลางเดือนเมษายน เนื่องจากความกังวลว่าสถานการณ์ของโรคระบาดจะทำให้มีผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหมือนกับในสหรัฐอเมริกา อิตาลีและสเปน



เอกวาดอร์ พบศพถูกทิ้งในเมืองกัวยากิล 150 ราย



           ทหารและตำรวจในเอกวาดอร์ถูกส่งเข้าเก็บร่างไร้วิญญาณอย่างน้อย 150 ศพตามท้องถนนและบ้านเรือนประชาชนในเมืองกัวยากิล จากการเปิดเผยของรัฐบาล พร้อมเตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในเมืองแห่งนี้และจังหวัดอื่นๆที่อยู่โดยรอบ มากถึง 3,500 รายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า



          จอร์จ วาเตด โฆษกของรัฐบาลขอโทษประชาชนผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ โดยอ้างว่าคนงานห้องเก็บศพไม่สามารถมาเก็บร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากมาตรการเคอร์ฟิวซึ่งบังคับใช้ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ไม่ได้ยืนยันว่าในอย่างน้อย 150 ศพที่ถูกทิ้งไว้ตามท้องถนนและบ้านเรือนประชาชนนั้น มีจำนวนเท่าใดที่เสียชีวิตจากโควิด-19



ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวสูงขึ้น หลังซาอุดีอาระเบีย-รัสเซีย ตกลงกันได้



          ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) ปิดบวกวันเดียวมากสุดเท่าที่เคยมีมา หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดหมายรัสเซียกับซาอุดีอาระเบียจะแถลงลดกำลังผลิตครั้งใหญ่  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 5.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 29.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



          ซาอุดีอาระเบียจะขอให้มีการประชุมฉุกเฉินของโอเปก ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่าซาอุดีอาระเบียอาจพิจารณาลดกำลังผลิตลงเหลือราว 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน  หลังจากมีแผนเพิ่มกำลังผลิตเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ท่ามกลางสงครามราคากับรัสเซีย



           ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) พุ่งแรง โดยดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 500 จุด ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 469.93 จุด ปิดที่ 21,413.44 จุด กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.6 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  มีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ท่ามกลางผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก



          ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) พุ่งแรง ตัวเลขภาคแรงงานที่น่ากังวลของสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 46.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,637.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์



แอฟริกา ร่วมมือบริษัทด้านเทคโนโลยี สกัดข่าวปลอม



          รัฐบาลหลายประเทศทั่วแอฟริกา ข้อความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรวมถึง Facebook และ WhatsApp เพื่อต่อสู้กับข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับโควิด-19 บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการควบคุมโรค ในทวีปที่มีระบบการดูแลสุขภาพที่อ่อนแอ โดยประเทศแอฟริกาใต้ มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในทวีป คือจำนวนมากกว่า 1,300 คน ได้เปิดตัวบริการข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาบน WhatsApp



          ที่ไนจีเรียเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพร่วมกับ Facebook ใช้การแจ้งเตือนแบบพุชไปยังผู้ใช้พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับอาการและวิธีหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังได้รับพื้นที่โฆษณาฟรีบน Facebook เพื่อเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน 11 ประเทศแอฟริกาอื่น ๆ และทั่วโลก



          Twitter ได้ปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมเพื่อยกระดับข้อมูลทางการแพทย์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีการเผยแพร่ใน 70 ประเทศรวมถึง 5 ประเทศในแอฟริกา



          แต่ในเวลาเดียวกันรัฐบาลและบริษัท ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญกับการต่อสู้กับข่าวเท็จจำนวนมาก ทั้งที่เกี่ยวกับสีผิว และการรักษาโดยแพทย์พื้นบ้าน ที่ยังไม่มีการรับรองว่าสามารถใช้ได้ผล โดยในเคนยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบล็อกเกอร์ชื่อดัง 2 คนที่เผยแพร่ข่าวสารที่เป็นเท็จเกี่ยวกับไวรัสผ่านทาง Twitter



          ส่วนในแอฟริกาใต้ ผู้ที่เผยแพร่ข่าวสารที่เป็นเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน



เปิดอีก 15 ชาติ ไม่ติดโควิด-19



           สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า ยังมีอยู่ แค่ 15 ชาติที่ยังไม่รายงานพบผู้ติดเชื้อในประเทศ ประกอบด้วย  1.คอโมโรส(814,000คน) 2.สาธารณรัฐคิริบาส(116,300คน) 3.ราชอาณาจักรเลโซโท(2.2ล้านคน) 4.มาลาวี(18.6ล้านคน) 5.ปาเลา(21,000คน) 6.ซามัว(196,440คน) 7.เซาตูเมและปรินซิปี(204,300คน) 8.หมู่เกาะโซโลมอน(611,300คน) 9.ซูดานใต้(12.6ล้านคน), 10.ทาจิกิสถาน(8.9ล้านคน), 11.ตองกา(108,000คน) 12.เติร์กเมนิสถาน(5.8ล้านคน) 13.ตูวาลู(11,192คน) 14.วานูอาตู(276,250คน) และ 15.เยเมน(28.2ล้านคน)



          แต่ข้อมูลเหล่านี้ จะต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากประเทศหนึ่งๆที่ไม่ได้รายงานเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่อาจไม่มีทรัพยากรสำหรับตรวจเชื้อที่น่าเชื่อถือ และอีกบางประเทศก็เป็นประเด็นเกี่ยวกับระบบการปกครองประเทศ



          ส่วนเกาหลีเหนือ ซึ่งมีชายแดนติดกับจีน จุดที่การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่ยอมรับว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19ในประเทศ อย่างไรก็ตามฟ็อกซ์นิวส์อ้างข้อมูลข่าวกรองสหรัฐฯและสื่อมวลชนท้องถิ่น เชื่อว่าเกาหลีเหนือ อาจจะมีผู้ติดเชื้อหลายพันคน  หลังมีการติดต่อ กับองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งอย่างลับๆ เพื่อขอความช่วยเหลือควบคุมการแพร่ระบาด  



เซินเจิ้น ห้ามกินแมว-หมา



          เทศบาลนครเซินเจิ้น เขตเศรษฐกิจพิเศษในมณฑลกวางตุ้ง ของจีนออกประกาศคำสั่งห้ามกินเนื้อสุนัขและแมว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการขยายข้อกฎหมายของทางการจีนเรื่องการห้ามค้าและกินเนื้อสัตว์ป่า ที่ถูกระบุว่าเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 โดยนักวิทยาศาสตร์มีข้อสันนิษฐานว่าไวรัสโคโรนาจะมีต้นทางมาจากสัตว์ป่าที่ติดต่อมายังมนุษย์ ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงแรกที่พบผู้ป่วยรายแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย มีการตั้งข้อสงสัยว่าเชื้อนี้มาจากเนื้องู หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่นในตลาดค้าสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งจนถึงขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 935,000 คน และเสียชีวิตแล้วประมาณ 47,000 ราย

          เทศบาลนครเซินเจิ้น ระบุว่า สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากกว่าสัตว์อื่น ๆ การห้ามกินเนื้อสุนัขและแมว ตลอดจนสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ คือข้อห้ามที่เป็นเรื่องธรรมดาในประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงในฮ่องกงและไต้หวัน



          โดยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ สภานิติบัญญัติสูงสุดของจีน เผยแพร่กฎหมายห้ามการค้าและการบริโภคสัตว์ป่า จากนั้นทางการในระดับมณฑลและเมืองใหญ่ทั่วประเทศรับมาบังคับใช้เป็นกฎหมาย แต่เซินเจิ้นนอกจากจะบังคับใช้กฎหมายแล้ว ยังมีการขยายข้อบังคับครอบคลุมไปถึงสุนัขและแมวด้วย ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคเซินเจิ้น ระบุว่า จีนมีเนื้อสัตว์ทั้งประเภทสัตว์ปีก ปศุสัตว์และอาหารทะเลมากเพียงพอต่อการบริโภค ไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่าเนื้อสัตว์ป่ามีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเนื้อสัตว์เหล่านี้

          ด้านกลุ่มสวัสดิภาพสัตว์ได้สนับสนุนคำสั่งของทางการเซินเจิ้น เรื่องการหยุดกินเนื้อสัตว์ป่าโดย นางเทเรซา เทเลคกี้ รองประธานกลุ่มฮิวแมน โซไซตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่าเซินเจิ้นเป็นเมืองแรกของโลกที่เรียนรู้บทเรียนจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้อย่างจริงจังและมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดใหญ่อีกครั้ง 



 

ข่าวทั้งหมด

X