ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563

24 กุมภาพันธ์ 2563, 21:18น.



รมว.กต.จีน เผยความตื่นตระหนกน่ากลัวยิ่งกว่าเชื้อไวรัส 




          การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ที่กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว มีรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ร่วมหารือถึงแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด -19  มาตรการดูแลประชาชน และความร่วมมือด้านสาธารณสุขอาเซียน-จีน นายหวัง อี้ กล่าวในที่ประชุมว่า ความตื่นตระหนกน่ากลัวยิ่งกว่าเชื้อไวรัส  และความเชื่อมั่นมีค่ายิ่งกว่าทองคำ ขอขอบคุณแรงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมกับย้ำถึงมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาภายใต้การดำเนินงานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงว่าจะสามารถต่อสู้และเอาชนะได้ในเร็วนี้ ในช่วงที่จีนกำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จีน สัมผัสได้ว่า ฤดูหนาวปีนี้ไม่ได้หนาวเย็นขนาดนั้น และฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า



         นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ มองสถานการณ์โควิด-19 เป็นความท้าทายข้ามพรมแดน ทุกประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกัน การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ซึ่งที่ประชุมได้หารือรับมือสถานการณ์ในวันข้างหน้าร่วมกัน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อดูแลประชาชน ป้องกันการแพร่ระบาด และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจในทุกด้าน ซึ่งจะส่งผลดีในระดับภูมิภาค



อาเซียน-จีน พลิกวิกฤติเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัล



          ประเทศสมาชิกอาเซียนและจีน มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่สำคัญระหว่างกัน ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่มากกว่า 65 ล้านคน และจีนยังเป็นคู่ค้าที่ใหญ่สุดของอาเซียน ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับสองของจีน เมื่อปี 2561 การค้าระหว่างอาเซียนกับจีน มีมูลค่ากว่า 4.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ          มีการวิเคราะห์ว่า หากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยืดเยื้อยาวนานเกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน จะทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ร้อยละ 1.0 และลงไปแตะที่ระดับประมาณร้อยละ 4.7 และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียน 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น ร้อยละ 0.07-0.11 ของจีดีพี อาเซียนทั้งหมด



          การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ในจีน ทำให้คนหลายล้านต้องอยู่บ้าน สร้างความเสียหายต่อหลายอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว แต่ในวิกฤตินี้ก็ยังมีโอกาสสำหรับทำการค้าและพาณิชย์ดิจิทัลของจีน สถานการณ์นี้ได้พลิกโฉมวิธีใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของชาวจีน บริษัทไฮเทค สรรหากลยุทธ์ที่สร้างสรรค์บริการให้ผู้บริโภคที่ก่อนหน้านี้ นิยมออกไปทำกิจกรรมในที่สาธารณะ เช่น เข้ายิม หรือไปในโรงภาพยนตร์  ตอนนี้ ชาวจีน ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาลองบริการเสมือนจริงผ่านออนไลน์กันมากขึ้น  เริ่มตั้งแต่บริการส่งอาหารแบบไม่เจอหน้า สำหรับผู้คนที่ติดอยู่กับบ้านและอาหารก็ถูกแห่ซื้อหมดร้านอย่างรวดเร็ว บริษัทส่งอาหารจึงถือโอกาสนี้ปรับรูปแบบและขยายบริการให้บริการส่งอาหารแบบไม่เจอหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัส



‘อนุทิน’ชี้แจงการประกาศเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย เพื่อป้องกัน ควบคุมให้มีประสิทธิภาพ



          ในส่วนของไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 ยังไม่พบการระบาดในประเทศ แต่แนวโน้มการระบาดในประเทศต่างๆ มีมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการระบาดของประเทศไทย ในวันนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ให้เพิ่มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ลำดับที่ 14 เพื่อให้สามารถใช้ข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค สามารถควบคุมโรคได้มีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก การประกาศให้โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าไทยควบคุมโรคไม่ได้จนเข้าสู่ระยะที่ 3 แต่มาตรการที่เราทำจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าควบคุมโรคได้ทันที ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายในวงกว้าง



          โรคติดต่ออันตรายที่องค์กรเกี่ยวข้องและคนไทยควรเฝ้าระวัง มีทั้งหมด 13 โรค ประกอบด้วย 1.กาฬโรค 2.ไข้ทรพิษ 3.ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก 4.ไข้เวสต์ไนล์  5.ไข้เหลือง 6.โรคไข้ลาสซา"ไข้เลือดออก 7.โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์  8.โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก 9. โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา 10.โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา 11.โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส 12.โรคทางเดินหายใจตะวัน ออกกลาง หรือโรคเมอร์ส  13.วัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก



หุ้นไทย-ต่างประเทศ ร่วงระนาว กังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น



          การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,435.56 จุด ลดลง 59.53 จุด หรือ -3.98% เป็นระดับต่ำสุดของวันนี้ มูลค่าการซื้อขาย 76,431.30 ล้านบาท นักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า นัักลงทุนกังวลการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในหลายภูมิภาค จากเกาหลีใต้และอิตาลีมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แนะนำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



          การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีหุ้นออสเตรเลีย ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 7,065.40 จุด ลดลง 165.00 จุด หรือ -2.28%  ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดลบ 8.44 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 3,031.23 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ร่วงลง 83.8 จุด หรือ 3.87% ปิดที่ 2,079.04 จุด เนื่องจาก นักลงทุน มีความกังวลหลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ยกระดับการเตือนภัยจากไวรัสโควิด-19 สู่ระดับสูงสุด ส่วนเงินวอนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ  ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 487.93 จุด หรือ -1.79% ปิดวันนี้ที่ 26,820.88 จุด ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องจากวันหยุดชดเชยเฉลิมพระชนมพรรษา องค์สมเด็จพระจักรพรรดิ์



กรมชลประทาน เสริมเครื่องสูบน้ำ ช่วยภัยแล้ง ในพื้นที่อีสานกลาง 5 จังหวัด



         กรมชลประทาน ช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในเขตอีสานกลาง นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานจากนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 ถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่อีสานกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกโครงการลงพื้นที่ไปประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เรื่องน้ำ รวมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง  สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำรวม 53 เครื่อง กระจายไปอยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัด (ขอนแก่น 2 เครื่อง ,มหาสารคาม 11 เครื่อง, ร้อยเอ็ด 6 เครื่อง,ชัยภูมิ 7 เครื่อง, กาฬสินธุ์ 27 เครื่อง) เช่นที่ จังหวัดขอนแก่น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรม-เชิญ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณแก้มลิงกุดแคน เหนือประตูระบายน้ำน้ำเชิญ เพื่อสูบน้ำไปเติมให้กับลำน้ำเชิญแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในเขตอำเภอชุมแพ ส่วนที่ จังหวัดมหาสารคาม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเสียวใหญ่ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหน้าฝายยางบ้านแดง เพื่อสูบน้ำจากลำน้ำเสียวใหญ่ ไปช่วยเพิ่มปริมาณน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนกว่า 250 ครัวเรือน ในพื้นที่บ้านแดง ตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม 



กทม.เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นในอาทิตย์นี้



          สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร แจ้งเตือนประชาชนว่า ช่วงสัปดาห์นี้ (24 – 29 ก.พ. 2563) ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือในระดับบนพัดมา ซึ่งจะพัดพาฝุ่นที่เกิดจากการเผาในที่โล่งเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวนมาก ประกอบกับลมในระดับใกล้พื้นดินในพื้นที่กรุงเทพฯ มีลักษณะสงบนิ่ง การไหลเวียนของอากาศไม่ดี สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีลักษณะเหมือนฝาชีครอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดฝุ่นสะสมปริมาณค่อนข้างมาก  จึงขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพตัวเอง หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง แบบ N95 หากเกิดความจำเป็นต้องประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง



         กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เช่น เข้มงวดในการใช้กฎหมายกับผู้ที่เผาในที่โล่งซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งและเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดตั้งจุดตรวจรถที่มีควันดำ ตลอดจนฉีดพ่นละอองน้ำล้างฝุ่นที่ต้นไม้พร้อมล้างพื้นถนนเป็นประจำ  หากสถานการณ์ฝุ่นPM 2.5 เข้าขั้นวิกฤตในสัปดาห์นี้  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีฐานะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command   ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” จะพิจารณาสั่งการแก้ไขตามสถานการณ์โดยทันที เช่น ให้หยุดการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว ห้ามไม่ให้รถบรรทุกเข้าพื้นที่ในบางช่วงเวลา หรือสั่งหยุดการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นชั่วคราวต่อไป 




สทนช.คุมเข้มก่อสร้างตึกใหม่ที่จ.นนทบุรี ต้องไม่ให้มีฝุ่น PM.2.5     



          นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  เปิดเผยว่า สทนช. อยู่ในระหว่างก่อสร้างอาคารที่ทำการถาวร ตั้งอยู่บริเวณถนนติวานนท์ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างฐานรากอาคาร และเนื่องจากสถานการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ยังคงอยู่ในภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง จังหวัดนนทบุรี ได้แต่งตั้งคณะทำงานมาตรการควบคุมงานก่อสร้าง วันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนนทบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานก่อสร้าง พบว่า ค่าฝุ่นในพื้นที่ก่อสร้างอาคารของ สทนช. อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและผ่านเกณฑ์การตรวจสอบ



         ก่อนก่อสร้าง สทนช. และมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมกันศึกษาสำรวจ ออกแบบอาคาร และได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไว้แล้ว ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2562 ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากรายงาน EIA อย่างเคร่งครัด ในด้านคุณภาพอากาศ (ฝุ่น) ดำเนินการล้อมรั้วพื้นที่โครงการก่อสร้าง การทำความสะอาดถนนและเส้นทางการสัญจรทั้งภายในและภายนอกโครงการ การล้างล้อรถทุกคันก่อนออกจากโครงการ การใช้วัสดุปิดคลุมกองดินและรถบรรทุกขนดิน เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม คุณภาพน้ำ อากาศ เสียง และความสั่นสะเทือน โดยเฉพาะคุณภาพอากาศ ได้แก่ การติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ จำนวน 2 จุด ตั้งอยู่ภายในและภายนอกโครงการด้วย



'อันวาร์' ปฏิเสธไม่เคยจับมือพรรคฝ่ายค้านเพื่อตั้งรัฐบาลใหม่




          เว็บไซต์ข่าวสตาร์ออนไลน์ของมาเลเซีย รายงานอ้างนายอันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าพรรคความยุติธรรมประชาชน (พีเคอาร์)ว่าเขาได้ร้องขอให้นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ประธานพรรคคนพื้นถิ่นสามัคคี (พรรคเบอร์ซาตู) ทำหน้าที่บริหารประเทศไปจนครบวาระ 5 ปี ระหว่างพบกับนายมหาเธร์ เมื่อเช้านี้ นายอันวาร์ กล่าวว่า ในนามพรรคพีเคอาร์ และพรรคพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งรู้จักในชื่อว่า พรรคปากาตัน ฮาราปัน ขอร้องให้นายมหาเธร์ บริหารประเทศต่อไป แม้ว่านายมหาเธร์ ไม่อยากจะอยู่ในอำนาจ พร้อมทั้งร่วมมือกันหาทางแก้ไขปัญหาความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล นายอันวาร์ พูดกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ของพรรคพีเคอาร์ หลังจากเมื่อช่วงบ่ายนี้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย เพื่อขอคำแนะนำทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างสงบสุขและมีเสถียรภาพ



         เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายมหาเธร์ รู้สึกผิดหรือไม่ที่ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองขึ้นในขณะนี้ นายอันวาร์ระบุว่าไม่ควรตำหนินายมหาเธร์ในเรื่องนี้  ที่ผ่านมา คนทั้งภายในพรรคของมหาเธร์และคนภายนอกมักจะแอบอ้างชื่อของนายมหาเธร์ในหลายๆครั้ง รวมถึงกรณีที่มีการแพร่สะพัดในวงการเมืองมาเลเซียว่านายมหาเธร์อยู่เบื้องหลังการจับมือกับพรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ(พรรคอัมโน)ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เพื่อให้ตนเองอยู่ในอำนาจต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ นายอันวาร์ ระบุว่า นายมหาเธร์ พูดชัดเจนว่าไม่มีทางที่เขาจะจับมือกับพรรคของนายนาจิบ เพื่อสนับสนุนให้ตนเองอยู่ในอำนาจ



CR:กระทรวงการต่างประเทศ 



 

ข่าวทั้งหมด

X