ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.25น.วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562

21 ตุลาคม 2562, 19:51น.


นายกฯร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น



         การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2562 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น จะจัดขึ้นวันที่ 22 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ที่พระราชวังอิมพีเรียล คาดว่า จะมีพระราชอาคันตุกะ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพระราชพิธีกว่า 2,500 คน เช่น พระประมุขแห่งลักเซมเบิร์ก มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ประธานาธิบดีไซปรัส ผู้นำจาก 10 ประเทศอาเซียน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ  สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ อย่างเป็นทางการแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก



         ในวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2562 นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ทำเนียบรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น และในช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี ที่โรงแรมนิวโอตานิ กรุงโตเกียว หลังจากนั้น เวลา 00.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ และภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียวและจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 04.50 น.



ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก



          วันนี้ญี่ปุ่น เตรียมความพร้อมพระราชพิธี โดยพระราชพิธีดังกล่าว สมเด็จพระจักรพรรดิจะทรงฉลองพระองค์แบบราชสำนักโบราณ และจะทรงก้าวขึ้นประทับบนบัลลังก์ทาคามิคุระ ภายในท้องพระโรงในพระราชวัง จากนั้นจะทรงมีพระราชดำรัสในโอกาสขึ้นครองราชย์ต่อบรรดาผู้นำประเทศและราชอาคันตุกะนานาชาติที่ได้รับเชิญ ซึ่งรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ และภริยา ก่อนที่จะมีงานเลี้ยงภายในพระราชวังในตอนเย็น ส่วนริ้วขบวนเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้เลื่อนไปเป็นวันที่ 10 พฤศจิกายน เพื่อให้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นฮากิบิส



เตือนคนไทยที่ญี่ปุ่นระวังพายุไต้ฝุ่น นอกูรี



          สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ญี่ปุ่น แจ้งเตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตคันไซ (โอซากา มิเอะ เฮียวโกะ วากายามะ เกียวโต นารา ชิกะ) และชิโกะกุ (โทกูชิมะ คากาวะ โคจิ เอฮิเมะ) และนักท่องเที่ยวไทยที่อยู่ในญี่ปุ่น หรือกำลังเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น  ทางการท้องถิ่น และปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการเตือนภัยจากพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 20 พายุนอกูรี ที่เคลื่อนผ่านประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่บ่ายวันนี้  อิทธิพลของไต้ฝุ่นลูกนี้ จะทำให้เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในพื้นที่ข้างต้น ระหว่างวันนี้ ถึงช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดมิเอะและจังหวัดวากายามะที่อาจเกิดดินถล่ม  สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้คนไทยติดตามข่าวสารสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่น หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการของเที่ยวบินต่าง ๆ และขนส่งมวลชน จากสายการบินและบริษัทผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้ ในกรณีฉุกเฉินที่จะขอรับความช่วยเหลือ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฮอตไลน์ของสถานกงสุลใหญ่ฯ หมายเลข 090-1895-0987



ก.พลังงาน ขอให้ก.พาณิชย์ คุมเข้มสต็อกซื้อน้ำมันปาล์มดิบ



          ตามที่กระทรวงพลังงาน มีนโยบายที่จะส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี10 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เป็นการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ ให้มีระดับเหมาะสมในการแก้ปัญหาราคาปาล์มดิบตกต่ำ ให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ตรวจเข้มสต็อกซื้อน้ำปาล์มดิบ(ซีพีโอ) ในประเทศ ต้องหาทางป้องกันการลักลอบนำเข้าจากเพื่อนบ้านขณะเดียวกันต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน ดูแลให้เพียงพอในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบี 10 ในอนาคตจะกระจายให้ทุกปั๊มได้จำหน่ายให้ครบทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1มี.ค. 2563 เป็นต้นไป คาดว่า ไตรมาส1 ปีหน้า จะเห็นยอดการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 อยู่ที่ 30-40 ล้านลิตรต่อวัน



รมว.เกษตรฯ อยากให้คณะกก.ลงมติเรื่อง3สารเคมีอย่างเปิดเผย



          การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีวาระพิจารณาแบนสารเคมี 3 ชนิด พาราควอต ไกลโฟเสต และคลอไพรีฟอส นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่เป็นผู้แทน 5 คน ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เชื่อมั่นว่าจะมีการลงมติแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวง พร้อมทั้ง เรียกร้องให้เปิดเผยผลการลงมติว่าคณะกรรมการแต่ละคนมีมติอย่างไร เพื่อไม่ให้มีใครต้องเป็นแพะรับบาป หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการแบน 3 สาร กระทรวงเกษตรฯ เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว ทั้งเรื่องของสารทดแทน สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมีตัวอื่น เพื่อเป็นทางเลือกและไม่กระทบเกษตรกร เป้าหมายของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องเดินหน้าสู่เกษตรปลอดภัยและเกษตรแบบยั่งยืน ลดการพึ่งพาการใช้สารเคมี



กรรมการในสัดส่วน ก.อุตสาหกรรม ยืนยันลงมติแบน 3 สารพิษ



          นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรรมการ 3 คนในสัดส่วนของกระทรวง จากทั้งหมด 29 คน จะลงคะแนนให้มีการยกเลิกการใช้สาร 3 ชนิดแน่นอน ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ก็จะโหวตยกเลิกเช่นกัน ขณะที่กรรมการคนอื่นขึ้นอยู่กับดุลพินิจ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่ามีแนวทางการใช้สารอื่นทดแทนสาร 3 ชนิดที่จะยกเลิก บรรเทาผลกระทบให้เกษตรกร รวมทั้งมีแนวทางเยียวยาผลกระทบราคาสารทดแทน 



รัฐบาล แต่งตั้ง ‘พ.ต.ท.พงศ์พร’ เป็นที่ปรึกษานายกฯ ในกิจการพระพุทธศาสนา



          การแต่งตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ ผอ.พศ.ที่เกษียณอายุราชการ ให้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในกิจการพระพุทธศาสนา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจ้างเช่นนี้ไม่ใช่การต่ออายุและไม่มีอำนาจทางราชการ แต่มีบทบาท โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาการว่าจ้าง ขึ้นอยู่กับภารกิจ หรือแล้วแต่นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูแลเรื่องบางเรื่องที่ค้างอยู่ใน พศ. และเมื่อถึงเวลาได้ ผอ.พศ.คนใหม่ ก็จะได้แบ่งหน้าที่ให้ถูกต้องต่อไปว่าจะให้ พ.ต.ท.พงศ์พร ช่วยประสานหรือดูแลเรื่องใด



          ส่วนการว่าจ้าง พ.ต.ท.พงศ์พร ต่อเพื่อให้มาดูแลคดีเงินทอนวัดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีบางเรื่องที่ต้องประสานกับหน่วยงานอื่น ซึ่งยังไม่ทราบว่า ผอ.พศ.คนใหม่เป็นใคร  หาก ผอ.พศ.ถนัดในภารกิจเหล่านี้ พ.ต.ท.พงศ์พร ก็จะมีบทบาทน้อยลง แต่ถ้าไม่ถนัด พ.ต.ท.พงศ์พร อาจจะมีบทบาทมากขึ้น แต่ว่าไม่มีอำนาจในการสั่งการ สำหรับการแต่งตั้ง ผอ.พศ. คนใหม่ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องถามนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล พศ.ว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ หรือไม่ ซึ่งยังไม่ทราบ แต่หากจะเสนอเข้า ครม. ต้องมีการเสนอมาที่ตนก่อน



หุ้นไทย ปรับลดลง 10.65จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดบ่าย ปรับลดลง10.65 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,620.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,965.15 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนแอกว่าตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ต่างแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง คล้ายตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็แกว่งไซด์เวย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเคลื่อนไหวยังไม่ชัดเจน เนื่องจากต้องรอดูเรื่องการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.10 จุด ปิดที่ 26,725.68 จุด นักลงทุน วิตกกังวลเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง เมื่อวานนี้ ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงนับหมื่นคน สวมเสื้อผ้าสีดำและใส่หน้ากากดำ รวมตัวกันยึดถนนสายหลัก และกีดขวางการจราจรในย่านเกาลูน



ศาล ออกหมายจับคนร้ายชิงทอง 24 บาท  



          คดีคนร้ายชายใส่แว่นบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 24 บาท จากห้างทองเยาวราช ย่านวังหิน มูลค่ากว่า 500,000 บาท ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าถนนลาดปลาเค้า ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ พ.ต.ท.พสิษฐ์ สายชนม์ศักดิ์ รองผู้กำกับสอบสวน สน.โชคชัย กล่าวว่า ศาลอาญา ออกหมายจับคนร้ายตามภาพจากกล้องวงจรปิด ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เชื่อว่าคนร้ายเตรียมการมา และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายหันมาดูร้านทองก่อนเกิดเหตุ และหลังก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์หลบหนี มุ่งหน้าถนนลาดปลาเค้าในพื้นที่ สน.พหลโยธิน จึงได้ประสานให้ช่วยติดตามจับกุมแล้ว ขณะนี้เร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนี ตรวจสอบแผนประทุษกรรมกับพื้นที่ต่างๆ เพื่อหาประวัติก่อเหตุ และสอบปากคำพยานไปแล้ว 3-4 ปาก มีทั้งเจ้าของร้าน และพนักงาน รวมถึงพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์



CR:รัฐบาลไทย



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X