รอยเตอร์ รายงานว่า มีการยิงปืนใหญ่และการสู้รบจากเมืองซีย์ลันปินาร์ของตุรกี ใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรีย มาจนถึงเมืองรัสอัลไอน์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียในวันนี้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีคนเสียชีวิตหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินจากการยิงปืนใหญ่ในวันนี้หรือไม่ หลังประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีและรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ของสหรัฐฯลงนามในข้อตกลงหยุดยิง 5 วันในซีเรียเป็นเวลา 13 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้กองกำลังเอสดีเอฟ ซึ่งมีนักรบชาวเคิร์ดเป็นแกนนำถอนกำลังออกจากพื้นที่นั้นซึ่งตุรกีต้องการจะใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างค่ายผู้อพยพซีเรีย
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชื่นชมข้อตกลงหยุดยิงว่าช่วยทำให้คนหลายล้านคนได้รับความปลอดภัยต่อชีวิต ขณะที่ตุรกีมองว่าเป็นชัยชนะของตุรกี คือบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมด ก่อนหน้านี้ตุรกีเริ่มปฏิบัติการบุกเข้าไปในซีเรียเป็นระยะทางกว่า 30 กม.เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ขณะเดียวกันกลุ่มนักรบชาวเคิร์ด ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯในการสู้รบกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ตกลงจะถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ส.ส.ทั้งจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯตำหนินายทรัมป์ว่าหักหลังพันธมิตรชาวเคิร์ดที่เคยสู้รบกลุ่มไอเอสและไม่ใส่ใจต่อผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากการบุกซีเรียของกองทัพตุรกี