สตม.ใช้ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล รวบผตห.ชาวต่างชาติกว่า 40,000 รายในช่วง 4 เดือน

          หลังการติดตั้งระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล(Biometrics) ได้ 4 เดือน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยว่า เมื่อการติดตั้งระบบสมบูรณ์ สตม. สามารถจับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเกินกำหนดได้กว่า 40,000 ราย เปรียบเทียบปรับเงินกว่า 10 ล้านบาท ถือว่าได้ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเท่าเทียมต่างประเทศ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว และความมั่นคงภายในประเทศได้มากขึ้น ส่วนการจับกุมคนต่างด้าวใช้หนังสือเดินทางปลอมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3 ราย โดยถูกตรวจจับได้ด้วยระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และถูกดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า กรณีแรกผู้ต้องหาเป็นชาวอิหร่าน อายุประมาณ 47 ปี ลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส ถูกจับได้ช่วง 20.00 น.วันที่ 23 กันยายน ให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อหนังสือเดินทางที่สถานีรถไฟในฝรั่งเศส ราคาประมาณ 17,500 บาท ก่อนเดินทางมาประเทศไทยและใช้หนังสือเดินทางปลอมเล่มดังกล่าวในการเดินทางเพื่อลักลอบไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

          ขณะที่รายที่ 2 เป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลที่แท้จริง ลักษณะคล้ายชาวจีน สามารถพูดภาษาจีนได้อายุประมาณ 47 ปี ใช้หนังสือเดินทางประเทศเมียนมาปลอม (ปลอมหน้าข้อมูลส่วนบุคคล) ในการเดินทางเข้าประเทศไทย ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ประมาณ 21.00 น.วันที่ 25 กันยายน ให้การรับสารภาพว่าได้หนังสือเดินทางจากเพื่อนต่างชาติไม่ทราบชื่อ แนะนำนายหน้าที่เมืองย่างกุ้ง เป็นผู้จัดทำหนังสือเดินทางให้จ่ายเงินค่าดำเนินการ 1,250 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกจับกุมในข้อหาใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่น และใช้หนังสือเดินทางปลอม

        รายที่ 3 เป็นหญิงสาวชาวเคนย่า อายุประมาณ 28 ปี ถูกจับขณะที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศไทย ได้เข้าระบบการตรวจสอบผ่านระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ทำให้ระบบแจ้งเตือนว่า คนต่างด้าวรายนี้อยู่ในราชอาณาจักรเกินถึง 715 วัน และปลอมหรือใช้รอยประทับที่มีการแก้ไข (รอยตาประทับขาออกด่าน ตม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รหัส S1742 และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ) คนต่างด้าวรายนี้ถูกจับเมื่อวันที่ 30 กันยายน เวลาประมาณ 03.00 น. ให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ในระหว่างนั้นได้ส่งหนังสือเดินทางไปให้นายหน้าที่ประเทศเคนย่าดำเนินการประทับรอยตราประทับปลอม ชำระค่าดำเนินการ 10,000 บาท ถูกจับกุมในข้อหาปลอมหรือใช้รอยประทับที่มีการแก้ไข และอยู่ในราชอาณาจักรเกินการอนุญาต