ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนสิงหาคม 2562 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 10 เดือน นับแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 92.8 น้อยกว่าช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่อยู่ที่ระดับ 93.5 ความเชื่อมั่นทั้งในภาคอุตสาหกรรมขนาดย่อม,ขนาดกลางและขนาดใหญ่ต่างปรับตัวลดลงจากช่วงเดือนกรกฎาคมทั้งหมด สาเหตุจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ,ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก,เงินบาทไทยที่แข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน เป็นอุปสรรคในการส่งออก ประกอบกับผู้ประกอบการกังวลเรื่องกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัวลง หลังจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย แต่คาดการณ์ว่าในช่วง 3 เดือนปลายปีนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 102.9 เพราะคาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีจะมีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น และได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศของภาครัฐจำนวน 310,000 ล้านบาท น่าจะส่งผลดีต่อยอดขายและยอดคำสั่งซื้อของผู้ประกอบการ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. เสริมว่า ไทยควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพราะมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก และเงินบาทก็ยังแข็งค่าต่อเนื่อง
ขณะที่ นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ระบุว่า ผลจากสงครามการค้าทำให้ยอดการส่งออกและการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของไทยลดลง 8 เดือนแรกของปีนี้รถทุกประเภทมีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 587,196.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าร้อยละ 6.81 เช่นเดียวกับยอดการผลิตรถยนต์ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ที่ผลิตได้ 1,403,153 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าร้อยละ 1.25
ขณะที่ การผลิตรถจักรยานยนต์ 8 เดือนแรกของปีนี้ก็ลดลงกว่าร้อยละ 4.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีเพียงยอดขายรถยนต์ที่ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่าร้อยละ 4.2 โดยขายได้ทั้งสิ้น 686,652 คัน ส่วนในเดือนสิงหาคมการผลิตและส่งออกรถยนต์ ลดลงร้อยละ 8.21 และร้อยละ 20.45 โดยผลิตได้ 166,361 คันและส่งออกได้ 81,549 คัน
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร