นักลงทุน วิตกนโยบายของว่าที่นายกฯคนใหม่ของสหราชอาณาจักร กระทบภาคเศรษฐกิจ

นายลุคแมน โอตูนูกา นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟเอ็กซ์ทีเอ็ม ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา และนายจอห์น เรท นักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอส เปิดเผยว่า การที่นายบอริส จอห์นสัน ชนะการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ของพรรคอนุรักษ์นิยมและจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ในวันพรุ่งนี้ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มตั้งข้อสังเกตว่าแผนของนายจอห์นสันที่จะผลักดันให้สหราชอาณาจักร ถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หรือ เบร็กซิตตามกำหนดคือ วันที่ 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะมีข้อตกลงหรือไร้ข้อตกลง อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักร

ความหวั่นวิตกเช่นนี้ ส่งผลให้เงินปอนด์ ที่ซื้อขายกันในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราในระดับต่ำกว่า 1.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับระดับ 1.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงก่อนการลงประชามติเบร็กซิตในปี 2559 ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เมื่อกำหนดเบร็กซิตใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เงินปอนด์อาจจะร่วงต่ำกว่าระดับ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ และอาจจะร่วงต่ำกว่านั้นอีกก็ได้ ขณะที่ นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ เห็นด้วย พร้อมคาดว่าเงินปอนด์อาจจะร่วงมาอยู่ระหว่าง 1.00-1.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าสหราชอาณาจักรถอนตัวจากกลุ่มอียูแบบไร้ข้อตกลง

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่าการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงมากเช่นนี้อาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น กระทบต่อผู้บริโภค แม้ว่าอาจจะเกิดผลดีสำหรับผู้ส่งออก แต่ก็กระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ และอาจจะทำให้บริษัทบางแห่งในสหราชอาณาจักรประสบปัญหาด้านสภาพคล่องจนไม่สามารถชำระค่าสินค้าและบริการโดยใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ

ทีมต่างประเทศ