ปรับเฟซบุ๊ก 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลกว่า 87 ล้านบัญชี

หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และวอชิงตัน โพสต์ ต่างรายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า คณะกรรมาธิการการค้ากลางสหรัฐฯ หรือเอฟทีซี ลงมติ 3-2 ให้ลงโทษ ด้วยการปรับเงิน บริษัท เฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่จำนวนเกือบ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท จากกรณีที่เฟซบุ๊กได้ปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานกว่า 87 ล้านบัญชีหลุดไปอยู่กับบริษัทวิจัยข้อมูลด้านการเลือกตั้ง แคมบริดจ์ อนาไลติกาเมื่อปีที่แล้ว

 มติดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า การดำเนินการสอบสวนเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าจะเป็นการปรับเงินบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อย่างไรก็ตาม ทั้งเอฟทีซีและเฟซบุ๊กยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดในเรื่องนี้ แต่หลังจากมีรายงานข่าวดังกล่าวออกมาก็ได้ทำให้หุ้นของเฟซบุ๊กก่อนปิดตลาดเมื่อคืนนี้ร่วงลงเกือบร้อยละ 2 ทั้งนี้ เอฟทีซีพิจารณาว่าการปล่อยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กหลุดออกไป โดยที่ผู้ใช้งานไม่รับทราบเป็นการละเมิดต่อระเบียบด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเอฟทีซี พ.ศ. 2554 ซึ่งกำหนดให้สื่อสังคมออนไลน์จะต้องมีระบบคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล