UNWTO คาดอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปีนี้ ขยายตัว 3-4% จากปัญหาศก.โลกชะลอตัว

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายซูรับ โปโลลิคาซวิลลี่ เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เปิดเผย UNWTO คาดว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ จะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3-4 เนื่องจาก สถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนในเรื่องเบร็กซิตของสหราชอาณาจักร ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์การเมืองและความตึงเครียดจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯอาจจะทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ รอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศ แต่ราคาเชื้อเพลิงที่ทรงตัว การเชื่อมโยงทางอากาศตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมากขึ้นและการเดินทางขาออกที่มากขึ้นจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่ถือว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ในทิศทางบวกสำหรับการท่องเที่ยวในปีที่แล้ว

UNWTO มองว่า เป็นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก มีนักท่องเที่ยวนานาชาติจำนวน 1.4 พันล้านคนในปี 2561 ก่อนหน้านี้ UNWTO คาดว่า ในปี 2553 จำนวนนักท่องเที่ยว คงจะไม่มากถึง 1.4 พันล้านคน จนกว่าจะถึงปี 2563 พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วง 2-3 ปี แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญที่สุดในการช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั่วโลก

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยว ได้รับความสะดวกมากขึ้นในการติดต่อทำวีซ่าไปต่างประเทศและค่าตั๋วเดินทางโดยเครื่องบินก็มีราคาถูกลงกว่าเดิม เมื่อจำแนกรายภูมิภาค พบว่า การท่องเที่ยวในตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกาเติบโตร้อยละ 10 และร้อยละ 7 ตามลำดับ นับว่าสูงเกินร้อยละ 6 ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยของทั่วโลก ขณะที่ ในทวีปเอเชีย,กลุ่มประเทศมหาสมุทรแปซิฟิกและยุโรป มีตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเติบโตเท่าๆกันคือร้อยละ 6

ทีมต่างประเทศ

CR:CNN.COM