ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานเริ่มส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ประชุมเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่รับผิดชอบงานด้านจราจร ทั้ง9จังหวัด เพื่อมอบนโยบายงานจราจรและกำชับ5จังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ประกอบด้วย นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี อยุธยา และสระบุรี ให้เพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับรถยนต์ควันดำที่วิ่งบนท้องถนน รวมถึงการบรรทุกสิ่งของตกหล่นบนผิวการจราจรทำให้เกิดฝุ่นละออง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษ กรมทางหลวง แขวงการทาง แขวงการทางชนบท เพื่อนำเครื่องตรวจจับควันดำที่มีการปล่อยควันดำมาตรวจจับ หากพบค่าเกินร้อยละ60 ขึ้นไป จะถูกใบสั่งเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท และให้ดำเนินการแก้ไข แต่หากพบค่าที่ต่ำกว่าร้อยละ60 จะให้แก้ไขภายใน 1 เดือน ตาม พ.ร.บ.จราจรและ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จำนวน 10 สถานีตำรวจ นำร่อง พร้อมประสานฝ่ายปกครอง ตรวจสอบ วัดค่าฝุ่นละอองตามโรงงานขนาดใหญ่ ท้องนาที่อาจจะมีการเผาหญ้า และตามเขตพื้นที่ก่อสร้าง มีที่ฝุ่นเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันลดการทำให้เกิดปัญหาควันและฝุ่นละออง โดยการฉีดน้ำลดฝุ่นละออง , ดับเครื่องยนต์ถ้าไม่จำเป็น ,รถบรรทุกขนปูน หรือทราย ต้องปิดและจัดเก็บให้มิดชิด ขณะเดียวกันวันนี้นายสมชาย เอื้ออมรสุข นายกสมาคมอนุเคราะห์คลองเตยแห่งประเทศไทย ยังได้มอบหน้ากากอนามัย N95 จำนวน2,000ชิ้น ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่บนท้องถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน เนื่องจากต้องออกปฏิบัติหน้าที่บนถนนตลอดเวลา
สำหรับการใส่หน้ากากN95ที่ถูกต้อง ต้องดึงสายรัดให้ยึด และหงายหน้ากาก ก่อนจะนำมือมาลอง จากนั้นทาบหน้ากากบนใบหน้าและใช้สายรัดสวมศีรษะ นำมือทั้ง2ข้างกดบริเวณที่มีโครงเหล็กตรงจมูกและแก้ม เพื่อให้หน้ากากยึดติดกับใบหน้า และใช้มือ2ข้างกุมที่หน้ากาก จากนั้นเป่าลมออกเพื่อทดสอบว่าหน้ากากแน่นแล้วหรือไม่