พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีหมีขอสั่งฟ้อง14ผู้ต้องหา17ข้อหา

20 พฤศจิกายน 2561, 17:40น.


ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้จับกุมตัว นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อมพวกรวม 12 คน เข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายตาต้า ชาวพม่า ผู้ดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ มือยิงหมีขอได้เพิ่มอีก 1 คน ซึ่งซัดทอดว่า นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย และนายสกานต์ แก่งหลวง เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอด่านมะขามเตี้ย เป็นผู้สั่งการให้ยิง



ล่าสุด ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รายงานผลการตรวจพิสูจน์พันธุกรรมของซากหมีขอ และหลักฐานอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 18 รายการ 38 ตัวอย่าง การตรวจเพื่อระบุว่าเป็นหมีขอตัวเดียวกันหรือไม่ ผลปรากฏว่า มีความน่าจะเป็นว่า “เป็นหมีขอตัวเดียวกัน”



สำหรับ ในวันนี้เป็นการประชุม พนักงานสอบสวน เพื่อสรุปสำนวน คดี ส่งฟ้องผู้ต้องหา 14 คน 17 ข้อหา เช่น ข้อหา ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์คุ้มครอง และ ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน



พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล รรท.รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้า ศปทส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชูชาติ โชคสถาพร รอง ผบก.สพฐ.7 พ.ต.อ.อดิชัย กัณหา นวท.(สบ 4) พฐ.จว.กาญจนบุรี ร.ต.ท.สุวัฒน์ ห้วยหงษ์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ปทส. และพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเสือดำ ทั้งหมดร่วมประชุมสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งสำนวนให้อัยการเป็นครั้งที่ 4 และเป็นผลัดสุดท้ายของการฝากขังผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไป การประชุมเพื่อสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ



สำหรับผู้ต้องหาที่ (1) คือนางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม ผู้ต้องหาที่ (2) นายทัศดนัย ขอกระโชก ผู้ต้องหาที่ (3) นายฉัตรชัย เกาะลอย ผู้ต้องหาที่ (4) นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ (5) ว่าที่ ร.ต. สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง ผู้ต้องหาที่ (6) นายสกานต์ แก่งหลวง ผู้ต้องหาที่ (7) นายอนุสรณ์ เรือนงาม ผู้ต้องหาที่ (8) นายประสาน เต็มธนัน ผู้ต้องหาที่ (9) นางอรุณ แสงใส ผู้ต้องหาที่ (10)นายถาวร เซี่ยงหลิว ผู้ต้องหาที่ (11) นายวัชรชัย สมีรักษ์ ผู้ต้องหาที่ (12)นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ ผู้ต้องหาที่ (13)นายตาต้า ชาวกะเหรี่ยง และ ผู้ต้องหาที่ (14)นายจีระ หรือเจนระ ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ระหว่างการหลบหนี



ล่าสุดพนักงานสอบสวนมีความเห็นส่งฟ้องรวมผู้ต้องหาทั้ง 14 คน รวม 17 ข้อหา คือ



          1.ส่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ในข้อหา ฐานความผิด ร่วมกันเก็บหานำออกไปทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพฯ



          2.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิดร่วมกันนำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายแก่สัตว์



          3.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-12 ฐานความผิด “ร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออก หรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อเป็นการนั้นฯ



          4. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆเข้าไปในเขตอุทยาน”



          5.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์คุ้มครอง



          6. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน”



          7. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งสัตว์ป่าหรือซากฯ



          8.ร่วมกันเก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าฯ



          9.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-12 ฐานความผิด “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”



          10. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ร่วมกันพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต”



          11. ฟ้องผู้ต้องหา ที่ 7.ฐานความผิด “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้”



          12.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 6-7-13-14 ฐานความผิด “มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้”



          13. ฟ้องผู้ต้องหา 1-2-3-6-7-8-11-13-14 ฐานความผิด “ยิงปืนในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”



          14.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ยิงสัตว์ป่าในเวลาอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น”



          15. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1-14 ฐานความผิด “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในบริเวณวัด”



          16. ฟ้องผู้ต้องหาที่ 3-4-5-6-7-10-11-13-14 ฐานความผิด “บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัด”และข้อหาที่ 17.ฟ้องผู้ต้องหาที่ 7 ฐานความผิด “มีเครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในความ ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ขณะนี้พนักงานสอบสวนเหลือเพียงแค่รอผลพิสูจน์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาประกอบสำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และคาดว่าจะส่งสำนวนให้กับอัยการภายในต้นเดือนธันวาคม 2561 นี้



 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X