อย.เร่งร่างกฎกระทรวง-ป.ป.ส.ศึกษาพื้นที่ปลูกกัญชาใช้ทางการแพทย์

การนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)  กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข จัดอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นการผ่อนปรนกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ นายแพทย์โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กล่าวว่า การอภิปรายในวันนี้คือการทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบถึงประโยชน์ทางการแพทย์ ข้อจำกัด โทษของกัญชา และแนวทางการคลายล็อค ข้อกฎหมาย โดยเป็นไปตามข้อมูลทางวิชาการ และตามที่เมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ พ.ศ. ... โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522  ก่อนส่งกลับไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้กัญชาเป็นยาเสพติดที่สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์และการวิจัยได้ ภายใต้ความปลอดภัย รวมถึงต้องมีกฎกระทรวงหรือกฎหมายลูกของพ.ร.บ.นี้ตามออกมาด้วย

นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ อย. เร่งร่างกฎกระทรวง มีหลักสำคัญคล้ายกับยาเสพติดให้โทษประเภท 2 และในระยะ 5 ปีแรก จะผลิตโดยหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ทราบถึงระบบการควบคุมและใช้ประโยชน์ของกัญชา ยืนยันว่า ในประเทศไทยกัญชายังเป็นยาเสพติด แต่มีประโยชน์ทางการแพทย์ จึงต้องมีระบบการควบคุม และไม่ใช่การปลดล็อค แต่เป็นเพียงการคลายล็อคตามขั้นตอน ซึ่งไม่ถึงขั้นนำมาใช้เพื่อสันทนาการ และประชาชน ยังไม่สามารถปลูก หรือผลิตน้ำมันใช้เองได้ การขออนุญาตเพื่องานวิจัยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนายแพทย์ปิยะสกล และคณะกรรมการพิจารณายาเสพติดให้โทษ

ด้านสารสกัดน้ำมันกัญชา ที่จะนำมาใช้กับผู้ป่วยในล็อตแรก นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า มีการขอของกลางมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การอนุญาตของ อย.และ ป.ป.ส. เพื่อการศึกษาวิจัย ขณะเดียวกัน ยังต้องตรวจสอบสารปนเปื้อน เนื่องจากกัญชาเป็นพืชดูดโลหะหนัก หากไม่ได้มาตรฐานจะไม่สามารถนำมาสกัดได้

ส่วนที่มีการขอจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชา นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นผู้ดูแล และจะต้องดูว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญา จะปฏิบัติอย่างไรตามคำขอจดสิทธิบัตรของบริษัทเอกชนทั้ง 11 แห่ง เนื่องจากสารสกัดจากพืช ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ และคาดว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

ด้านนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึง การควบคุมพื้นที่การปลูกกัญชาว่า อยู่ระหว่างศึกษาในรายละเอียด ตั้งแต่สายพันธุ์ สภาพแวดล้อมการเพาะปลูก การนำมาสกัด เพื่อให้ได้น้ำมันมาใช้ทางการแพทย์ ย้ำต้องมีการควบคุมอย่างรอบคอบและรัดกุม เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะเกิดผลเสียกับประชาชน ซึ่งการควบคุมพื้นที่จะมีความละเอียดอ่อนมากกว่าการควบคุมพื้นที่ปลูกกัญชง

ขณะที่ ในวันนี้นายบัณฑูร นิยมาภา (ลุงตู้) ได้เดินทางมาเรียกร้องให้มีการปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 ไม่ใช่การคลายล็อคที่อนุญาตเพียงบางส่วน เพราะกัญชาสามารถนำมาใช้รักษาได้หลายโรค

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม