รถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ช่วงที่ 1 (กลางดง - ปางอโศก) คืบหน้า 28% คาดว่าแล้วเสร็จตุลาคมนี้

17 สิงหาคม 2561, 15:35น.

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined offset: 57

Filename: news/detail.php

Line Number: 400


     ขณะนี้ความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงที่ 1 (ช่วงกลางดง – ปางอโศก) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างให้ ซึ่งประกอบด้วยงานหลักๆ 7 งาน ได้แก่ งานโครงการชั้นทางรถไฟความเร็วสูง งาน Service Road และ Access Road งานย้ายรางรถไฟเดิม รวมระยะทาง 900 เมตร งานระบายน้ำ (Drainage) งาน Culvert งาน Bridge และงาน Miscellaneous นั้น ปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้า 28% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2561

โดยเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงได้เร่งทำงานวันละกว่า 15 ชั่วโมง (07.00 - 22.00 น.) ซึ่งขณะนี้งานชั้นรองพื้นทาง (Bottom Layer of Subgrade Bed) ดำเนินการเสร็จเกือบทั้งหมดแล้ว ทำให้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนข้างหน้างานจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้การดำเนินงานรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 (กลางดง - ปางอโศก) นั้นจะเป็นต้นแบบในการดำเนินงานในช่วงต่อไปของโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพ - หนองคาย

ซึ่งการดำเนินการมีการตรวจสอบและทดสอบคุณสมบัติต่างๆ ของวัสดุอุปกรณ์ตลอดการดำเนินงานจากที่ปรึกษาของจีนอย่างละเอียด เช่น รางระบายน้ำซึ่งมีการใช้เหล็กและวัสดุในการดำเนินงานในมาตรฐานระดับสูง ซึ่งทางที่ปรึกษาจีนได้บอกว่าวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงอายุการใช้งานกว่า 100 ปี โดยวัสดุที่ใช้สำหรับดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่ผลิตได้ในประเทศไทย มีเพียง 2% ที่นำเข้ามาจากประเทศจีนได้แก่ วัสดุป้องกันความชื้น (Geosynthetics) สายดิน (Earthing and Bonding) ซึ่งเป็นวัสดุประกอบเพิ่มเติมที่ใช้ในการรองพื้นทางส่วนการดำเนินการต่างๆ เช่น การตรวจสอบวัสดุ การควบคุมงาน การสร้างในขั้นตอนต่างๆ กรมทางหลวงได้จัดทำเป็นคู่มือ เพื่อใช้เป็นองค์ความรู้ในการดำเนินงานที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงแล้วเสร็จ จะช่วยเสริมสร้างโครงข่ายการคมนาคมของประเทศ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการคมนาคมขนส่งถึงประเทศจีน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับการขนส่งทางถนน ซึ่งกรมทางหลวงได้ก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 บางปะอิน – นครราชสีมา ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจอีกด้วย


 
ข่าวทั้งหมด

X