ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30
+++กระแสข่าวทั้งสนับสนุนและคัดค้านเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาล ประหารชีวิตนักโทษ เมื่อวันที่ 18 มิ.ยพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยอมรับว่าเรื่องนี้มีความเห็นจากทั้งสองมุมที่จะต้องเกิดขึ้นในสังคม ขณะนี้สิ่งที่สามารถพูดได้คือ ทางกรมฯมีหน้าที่เพียงปฏิบัติตามกฎหมายครบถ้วนตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนความเห็นในประเด็นอื่นๆตนไม่สามารถให้ความเห็นใดๆได้ ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ได้ปรับหน้าเพจในโซเชียลมีเดีย ขึ้นรูป พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมระบุข้อความว่า “เราจะธำรงค์ไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของการบังคับโทษตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความสงบสุขของสังคมไทย”
+++นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว กรณีญาติของ นช.ธีรศักดิ์ นักโทษประหารรายล่าสุดออกมาตำหนิว่า ไม่มีโอกาสร่ำลาดูใจก่อนการประหารว่า กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประหารชีวิตนักโทษ พ.ศ. 2546 อย่างเคร่งครัดครบถ้วน โดยเฉพาะตามข้อ 10 ที่ให้เรือนจำสอบถามนักโทษที่จะถูกประหารชีวิตถึงการจัดการทรัพย์สิน ถ้าหากนักโทษแสดงเจตนาที่จะจัดการทรัพย์สินของตนก็ให้แสดงเจตนาไว้เป็นลายลักษณ์อักษร กรณีนักโทษเขียนหนังสือไม่ได้ให้เจ้าพนักงานเรือนจำเป็นผู้เขียนให้แล้วอ่านให้นักโทษผู้นั้นฟัง แล้วให้ลงลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน โดยมีพยานอย่างน้อย 2 คนลงชื่อรับรองลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือนั้น ซึ่งนักโทษรายดังกล่าวประสงค์คุยกับภรรยาและลูก ซึ่งได้พูดคุยตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังให้เรือนจำสอบถามนักโทษถึงอาหารมื้อสุดท้าย และหากไม่เป็นการเหลือวิสัยให้เรือนจำจัดให้ตามสมควรและเหมาะสม โดยนักโทษประสงค์รับประทานข้าวเหนียวไก่ย่าง และข้อ 18 ให้เรือนจำจัดเก็บศพของนักโทษที่ถูกประหารชีวิตไว้ในเรือนจำเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง เมื่อล่วงเลยระยะเวลาดังกล่าวแล้วให้แพทย์ของทางราชการร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำตรวจสอบ โดยทำบันทึกยืนยันการตายอีกครั้งหนึ่ง
+++พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.)เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ 20 มิ.ย.นี้ หลังการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)เพื่อตอบคำถาม ชี้แจงประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา ทั้งเรื่องการทุจริตเงินทอนวัด การจับกุมพระผู้ใหญ่ รวมทั้งเรื่องที่พศถูกโจมตีกล่าวหาว่าบิดเบือนข้อมูลทำลายพระพุทธศาสนา มีรายงานว่า พ.ต.ท.พงศ์พร จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หลังไม่ค่อยให้สัมภาษณ์และพยายามหลบเลี่ยงการตอบคำถาม จนนำมาซึ่งความเข้าใจผิดกลายเป็นประเด็นจับตาของสังคม การประชุมมหาเถรสมาคมครั้งต่อไปจะประชุมในวันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการประชุม มส.จะประชุม 3 ครั้งต่อเดือน คือทุกวันที่ 10,20 และ 30
+++สงครามการค้าสหรัฐ-จีน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงว่า มาจากปัจจัยภายนอกประเทศโดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจะต้องรอดูความชัดเจนวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ว่าจะมีสินค้าใดบ้าง นอกจากนี้ ยังมีผลจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เงินไหลออก อย่างไรก็ตาม มองว่าจะเป็นปัจจัยระยะสั้นเท่านั้น โดยเชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4.5 เชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งเนื่องจากเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งมีภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้น เห็นได้จากปัจจุบันไทยมีทุนสำรองสูงถึง 3.6 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าที่อยู่ที่ 3.4 เท่า ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพียังอยู่ในระดับต่ำร้อยละ 41
+++ล่าสุดกรมสรรพสามิตชี้แจง การเก็บภาษีผู้ประกอบการสุรา – เบียร์ล่วงหน้า ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการชำระภาษีที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะป้องกันราคาที่ผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้การคำนวณภาษีชำระจริงขณะนำเข้าได้อย่างแท้จริง ยืนยันการเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนเพื่อให้รัฐเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายตามที่มีกระแสข่าวออกมาเต่อย่างใด
++++นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน สนช. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมการขนส่งทางบก และมูลนิธิเมาไม่ขับ ภายใต้โครงการเสริมสร้างจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนจากคลิปวีดีโอ หวังลดความสูญเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนน เบื้องต้น กรมการขนส่ง ได้จัดสรรงบประมาณ 2,320,000 บาท สนับสนุนให้กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน นำไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ รณรงค์การปลุกจิตสำนึกการมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน เชื่อว่าจะนำไปสู่ความร่วมมือต่อไปใน ประชาชนสามารถส่งคลิปเหตุการณ์ผู้ขับขี่รถทุกประเภทที่ทำผิดกฎจราจร หรือวินัยจราจร โดยนำวีดีโอคลิปที่บันทึกจากกล้องหน้ารถ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือจากกล้องวงจรปิด เผยแพร่ทางเฟสบุ๊คเพจชมรมกล้องหน้ารถ ที่ www.facebook.com/cameraclub จากนั้นคณะทำงาน จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกฎหมาย และในแต่ละเดือนคลิปทั้งหมดที่ส่งมา จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 3 รางวัล โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 2 หมื่นบาท พร้อมเกียรติบัตร.