จนท.ขนส่งฯลงพื้นที่สุวรรณภูมิยังพบแท็กซี่ทำผิดแต่น้อยลง เตือนกระทบชื่อเสียงประเทศ

การตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ วันนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกร่วมลงพื้นที่ บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น4ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่มีรถแท็กซี่เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารจำนวนมาก นายศักดิ์สิทธิ์ บุญสง่า เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการกรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการ กล่าวว่า ในบริเวณนี้เป็นจุดที่มีรถแท็กซี่เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจึงหมนุเวียนกันตรวจความเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิด และเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสาร เพราะอาชีพแท็กซี่ถือเป็นอีกภาพลักษณ์หนึ่งของประเทศ เมื่อชาวต่างชาติใช้บริการแล้วประทับใจก็ถือว่าช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ แต่เมื่อใดที่บริการไม่ดี ชาวต่างชาติจะไปพูดต่อๆกับ ทำให้ประเทศเกิดความเสียหายได้ จึงอยากขอให้ผู้ขับขี่ช่วยกันปฏิบัติตามกฎหมาย และมีกิริยามารยาทที่ดีด้วย โดยวันนี้จะเน้นตรวจใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ, การแต่งกายสุภาพ,การตรวจรอบมิเตอร์ ,การตรวจเช็คสภาพรถ ,การต่อใบอนุญาต ,การชำระภาษีประจำปี,การนำรถที่หมดอายุการใช้งานมาให้บริการ ซึ่งรถที่สามารถนำมาวิ่งรับส่งผู้โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน9ปี หากพบผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะกระทำผิด ก็จะเปรียบเทียบปรับ หรือ ออกใบคำสั่งผู้ตรวจการ ใหเข้ารายงานตัวภายใน7วัน ที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อชำระค่าปรับและเข้ารับการอบรมจำนวน 3 ชั่วโมง

หลังจากตรวจบริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังได้ตรวจที่บริเวณชั้น1 ซึ่งเป็นจุดที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดให้บริการรถแท็กซี่ แต่ส่วนใหญ่จะไม่พบความผิด เนื่องจากรถแท็กซี่ที่เข้ามาให้บริการจุดนี้จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ อย่างเคร่งครัด  พร้อมกับตรวจรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง หรือรถบัส ที่มาให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นรถของบริษัทนำเที่ยว  โดยเน้นตรวจความปลอดภัยของรถเป็นหลัก ว่า สภาพรถมีความมั่นคงแข็งแรงหรือไม่ เช่น ดอกยางรถ ระบบเบรค กระจก มีการดัดแปลงลักษณะรถที่ต่างไปจากเดิมหรือไม่ มีเก้าอี้หรือสิ่งของวางกั้นประตูทางออกฉุกเฉินหรือไม่ เนื่องจากเวลาเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้ายออกจากตัวรถ  รวมถึงจำนวนเบาะที่นั่งจะต้องตรงกับที่จดทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบกด้วย

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า จากการลงตรวจในวันนี้ยังพบผู้กระทำผิดอยู่ แต่น้อยลง  ขณะนี้พบผู้กระทำผิดรวม18ราย แบ่งเป็น รถแท็กซี่ทำผิด15ราย คือ รถป้ายแดง5ราย ไม่พกใบอนุญาตขับขี่3ราย ไม่นำรถเข้าตรวจมาตรมิเตอร์2ราย และนำรถที่มีอายุการใช้งานเกินมารับ-ส่งผู้โดยสาร5ราย โดยกรณีนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้ปรับ  ก่อนจะดำเนินการถอดป้ายทะเบียน และแจ้งให้เจ้าของรถเร่งเปลี่ยนประเภทจากรถโดยสารสาธารณะเป็นรถส่วนบุคคลแทนและรถไม่ประจำทางทำผิดอีก3ราย คือ อุปกรณ์ส่วนควบชำรุด เช่น กระจกแตก 1ราย จำนวนที่นั่งเกิน1ราย และไม่ชำระภาษี1ราย

ทั้งนี้การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธรณะไม่ได้ลงตรวจแค่บริเวณท่าอากาศสุวรรณภูมิแห่งเดียว ยังสลับหมุนเวียนกันไปตรวจ ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หน้าห้างสรรพสินค้าแพลตินั่ม หน้าห้างสรรพสินพารากอน หลังห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง บีทีเอสหมอชิต ท่าอากาศยานดอนเมือง และสถานที่ต่างๆ ที่มักมีรถโดยสารสาธารณะให้บริการจำนวนมากด้วย

ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ ผสข.