ธนาคารกลางของจีน เปิดเผยว่า เตรียมที่จะปรับสัดส่วนเงินทุนสำรองของบริษัทที่รับเป็นนายหน้าชำระเงินจากเดิมที่ปัจจุบันกำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 50 ภายในเดือนเมษายน 2561 โดยจะทยอยปรับขึ้นร้อยละ 10 ต่อเดือนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนเมษายน การปรับเพิ่มสัดส่วนเงินทุนสำรองดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของธนาคารกลางจีนตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้วว่าจะค่อยๆ ออกมาตรการเพื่อป้องกันบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบธนาคารนำเงินของลูกค้าไปลงทุนส่วนตัว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจ หลังบริษัทประเภทนี้โตขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี รวมทั้งแอนท์ ไฟแนนเชียล ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่อาลีเพลย์ และเทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นวีแชท ซึ่งเป็นเครือบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีของจีนด้วย
ธนาคารกลางของจีน ระบุว่า มาตรการปรับเพิ่มสัดส่วนเงินทุนสำรองดังกล่าวจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับประชาชนที่มีแนวโน้มชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่คาดว่าจะมีปริมาณเงินสดหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก ตามธรรมเนียมการแจกเงินอั่งเปาเป็นของขวัญให้แก่ลูกหลานและผู้ใต้บังคับบัญชา และเมื่อมีแอพพลิเคชั่นชำระผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้ชาวจีน นิยมแจกอั่งเปาผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวแทนการมอบซองแดง ปัจจุบันทั้งอาลีเพลย์และวีแชทต่างมีผู้ใช้บริการมากกว่า 500 ล้านบัญชี และทำให้การชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในจีน
ทีมต่างประเทศ
CR:www.reuters.com