*ศิริราชเผยผลตรวจพบ แมงมุมสีน้ำตาล กัดชาวบ้านที่แพร่ เป็นรายแรกของประเทศไทย*

18 กรกฎาคม 2557, 16:00น.


ผลการตรวจซากแมงมุม ที่กัดนายอุทัย เวียงคำ อายุ 36ปี ชาวบ้านจังหวัดแพร่ ที่ถูกกัดที่บริเวณขาและหลังเท้า จนทำให้พิษเข้าร่างกาย จนทำเลือดเสีย ไตวาย และอวัยวะบางส่วนตาย ขณะนี้ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแพร่  และได้น้ำชิ้นส่วนของแมงมุมส่งมาให้ทางโรงพยาบาลศิริราช เพื่อตรวจสอบ



พญ.ธัญจิรา จิรนันทกาญจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาคลินิก ศูนย์วิทยาศิริราช กล่าวว่า  หลังการตรวจในเบื้องต้น จากการนำชิ้นส่วนที่ไม่สมบูรณ์ของแมงมุมมาตรวจนั้น แต่ผลตรวจในขณะนี้ยังไม่แน่ชัดทั้งหมด  แต่คาดว่า แมงมุมที่กัดนายอุทัย น่าจะเป็นแมงมุมสีน้ำตาล จากการบอกลักษณะของแมงมุม และอาการของผู้ป่วยที่ถูกกัดมีแผลมีสีคล้ำ อมม่วง ติดเชื้อแบคทีเรีย เกล็ดเลือดต่ำ การทำงานของตับและไตทำงานผิดปกติ จนต้องได้รับการักษาด้วยยาปฎิชีวนะ ฟอกไต และผ่าตัดบริเวณที่ติดเชื้อ  ปัจจุบันผู้ป่วยรายนี้เป็นรายแรกของไทย จึงยังไม่มีเซรุ่ม รักษาโดยตรง จึงต้องรักษาตามอาการไปก่อนในเบื้องต้น



ผศ.นพ.สุชัย สุเทพารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาคลินิก คณะแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึษาสถานเสาวภา กล่าวว่า ถ้าเมื่อผู้ป่วยที่ถูกแมงมุมกัดควรรอดูอาการก่อน 1คืน แต่ถ้าหากผู้ถูกกัดมีอาการ ปวด บวม แดง และร้อนที่บริเวณแผล ควรรีบไปพบแพทย์ทันที  แต่ขึ้นอยู่ว่า อาการจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำพิษด้วย   แต่หากเป็นแมงมุมแม่ม่ายดำ เมื่อถูกกัดแล้วจะรู้สึกปวดมาก และแสดงอาการที่ชัดเจน  แต่หากเป็นแมงมุมสีน้ำตาลเมื่อถูกกัดแล้ว แผลจะไม่รุนแรงมาก แต่บริเวณแผลจะมีอาการบวมแดง อักเสบ และเริ่มมีสีดำไหม้ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายพิษอาจจะเข้าสู่กระแสเลือด และอาจเสียชีวิตได้  



สำหรับแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาลซึ่งมีลักษณะจะแตกต่างกัน กับแมงมุมสีน้ำตาล ซึ่งจะมีลักษณะตัวจะเงาๆ และขนาดประมาณ 10-15เซนติเมตร ซึ่งใหญ่กว่าแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาลที่มีขนาด15-40มิลลิเมตรเท่านั้น มักจะพบมากในอเมริการเหนือ และใต้ และประเทศแม็กซิโก แต่จากการที่พบในประเทศไทยนี้ อาจจะมาจากผู้ที่เลี้ยง และหลุดออกมาก็เป็นได้

ข่าวทั้งหมด

X