*รมว.ยธ.ยืนยันใช้กม.ปกติดำเนินคดีพระธัมมชโย ไม่ใช่ม.44 เอาผิดผู้ช่วยเหลือด้วย*

การดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เตรียมดำเนินการเพื่อขอหมายค้นจากศาล เพื่อขอค้นในจุดที่ผู้ต้องหานอนอาพาธ เพราะไม่สามารถค้นในพื้นที่วัดทั้งหมดได้  จะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล  ยืนยันจะใช้กฎหมายปกติ ไม่ขอใช้อำนาจกฎหมาย มาตรา44 ซึ่งนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใย โดยต้องการให้การดำเนินคดีใช้กฎหมายปกติทั่วไป ใช้วิธีการเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะ นอกจากนี้ยังได้ส่งหมายจับให้ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจ ถ้าหากพบเห็นพระธัมมชโยก็สามารถจับได้เลย และได้มีหนังสือไปถึงฝ่ายปกครองคณะสงฆ์เพื่อให้ทราบเรื่องว่าในฐานะคณะสงฆ์จะดำเนินการอย่างไร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ใช้กฎหมายอาญามาตรา 189 ดำเนินการกับผู้ที่เข้าข่ายให้ความช่วยเหลือและที่พักพิงพร้อมเร่งรัดสำนวนคดีให้เสร็จเร็วที่สุดภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้อัยการดำเนินการฟ้องศาล ซึ่งหากไม่สามารถนำตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดีได้ก็จะสามารถดำเนินการฟ้องโดยไม่มีผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยัน ไม่ได้ดำเนินการแบบสองมาตรฐาน และไม่ได้ถูกกดดันจากใคร ส่วนในที่ 26 พ.ค. ไม่ได้เป็นเส้นตายที่จะให้พระธัมมชโยเข้ามอบตัวแต่เป็นการขยายเวลาเพื่อประนีประนอม เมื่อถามว่าจะกลายเป็นมาตรฐานหรือไม่ที่มีการนำมวลชนมากดดันหากไม่ต้องการให้ถูกจับกุม พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับว่าคนในประเทศจะยอมให้เกิดการแบบนี้หรือไม่

ขณะที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังการประชุมหาแนวทางดำเนินการกับพระธัมมชโย ว่า วันนี้ยังไม่มีการส่งเอกสารเพื่อขอออกหมายค้นวัดพระธรรมกาย แต่มีการทำเอกสารหนังสือเพื่อจะยื่นไปยังมหาเถรสมาคมให้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วว่าจะดำเนินการขอหมายค้น ยังไม่สามารถระบุเวลาในการยื่นขอหมายค้นได้

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา  เพชรดี