ศาลพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีอัยการฝ่ายคดีศาลจังหวัดพระโขนง นายมาโนจน์ หรือธนชรพล โตจวง, นางสาวสังวาล สีหะวงษ์ , นางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ์ นางทองดำ หลวงแสง เป็นโจทก์ร่วมที่ 1-4 ร่วมกันฟ้องนายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือหมูแฮม อายุ 25 ปี ขณะนั้น บุตรชายนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ กับนางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยปี 2527 เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่นทำให้ได้อันตรายแก่กาย หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ขับรถชนคนบนทางเท้า และชนนางสายชล หลวงแสง พนักงานการเงิน ขสมก.เสียชีวิต เมื่อ 4 ก.ค. ปี 2550 ซึ่งนายหมูแฮมได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายไปจนเป็นที่พอใจแล้วแต่นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายโจทก์ร่วมที่ 3 บุตรของนางสายชล ยื่นฎีกาไว้
โดยศาลเห็นว่า จากผลการตรวจสอบจากทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา เชื่อได้ว่า โจทย์มีอาการป่วยด้วยโรค สภาพจิตแปรปรวน มีปัญหาด้านการตัดสินใจจริง แต่การที่ให้รอลงอาญาศาลพิเคราะห์ จากสภาพแวดล้อมเห็นว่าก่อนเกิดเหตุโจทย์ยังมีการเสพยาตามรายงานประวัติของแพทย์โจทย์เสพยาเสพติดหลายชนิดตั้งแต่อายุ 17 ปี ประกอบกับบิดายังให้โจทย์ขับรถ จึงถือเป็นพฤติกรรมร้ายแรง พิพากษาแก้ไม่เห็นด้วยที่ศาลอุทรณ์ให้รอลงอาญาจำคุก 2 ปี ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่มีจิตบกพร่อง จึงแก้เป็นไม่รอลงอาญา ส่วนทำร้ายร่างกายไม่มีการยื่นฎีกา รับโทษตามเดิม คือ 1 เดือน พร้อมยกเลิกการคุมประพฤติของโจทก์ รวมจำคุก 2 ปี 1 เดือน
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายโจทก์ร่วมที่ 3 กล่าวว่า คดีนี้เกิดเมื่อ 2550 วันนี้ศาลฎีกาพิพากษาแก้ศาลอุทรณ์ จำคุก2ปี 1เดือนโดยให้เหตุผลว่า มีพฤติกรรมไม่ควรรอลงอาญา ซึ่งคดีนี้ถือว่าถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ก็ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล และขอให้ทั้ง2ฝ่าย อโหสิกรรมให้กัน และในฐานะทนายความ พอใจกับคำพิพากษาของศาลวันนี้
ด้านนางสาวสุชีรา อินทร์สุวรรณ์ กล่าวด้วยความรู้สึกภูมิใจที่ต่อสู้กับเรื่องนี้มานาน และทำได้เท่าที่ในฐานะที่ลูกคนนี้จะทำให้คนเป็นแม่ได้
แฟ้มภาพ