จากกรณีที่ JS100 รับแจ้งจากผู้ใช้ทางพบเห็นกลุ่มหมูป่าเดินขึ้นมาบริเวณเชิงทางลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาออก บ่อยครั้งโดยเฉพาะวันหยุดช่วงที่การจราจรเบาบาง จึงมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เพื่อเข้าดูแลในพื้นที่เป็นครั้งคราว
ล่าสุดนายสมชาย หมื่นเดช ปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ด เปิดเผยว่า หมูป่ากลุ่มนี้ปศุสัตว์ไม่เคยได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้เข้ามาดูแล จนกระทั่ง จส.100 แจ้งมาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2560 ประกอบกับเทศบาลนครปากเกร็ดได้รับร้องเรียนมา และได้ทำหนังสือแจ้งเจ้าของให้ทราบ โดยตอนแรกเลี้ยงไว้บริเวณที่รกร้างใต้ทางด่วนประมาณ 40 ตัว ต่อมาเจ้าของได้ย้ายบ้านไปอยู่ จ.ลพบุรี เมื่อปีที่แล้ว ก็นำไปได้เพียง 30 ตัว เหลือทิ้งให้ลูกสาวที่ยังอาศัยอยู่อีก 10 ตัว จากนั้นได้ขยายพันธุ์ออกลูกหลานเพิ่ม จนตอนนี้มีประมาณ 60-70 ตัว ต่อมาลูกสาวคนเลี้ยงมีปัญหาเรื่องสุขภาพจึงเลี้ยงดูต่อไม่ไหว และมอบหมูป่าทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของปศุสัตว์
.jpg)
ที่ผ่านมาชาวบ้านบริเวณนั้นก็คอยให้อาหาร บางทีก็ออกมาหากินเองบ้าง เดินขึ้นทางด่วนบ้าง ทำให้ชาวบ้านและผู้ใช้เส้นทางเดือดร้อน ตัวแม่หมูป่าตัวใหญ่หนักประมาณ 100 กก. จับลำบากมาก เพราะหมูป่าไม่คุ้นกับคนเลย ต้องใช้กรงดักสัตว์ขนาดใหญ่ เอาอาหารล่อ ให้หมูป่าเข้ากรง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนเช้ามืด เพราะหมูป่าออกหากินตอนเช้าและตอนเย็น กลางวันจะนอนหลบแดด ขณะนี้พยายามติดต่อคนนอกพื้นที่มารับเลี้ยง หาคนที่อยู่ตามด้านนอกเขตเทศบาล โดยให้ลงทะเบียนแล้วเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับไป ทั้งนี้หมูป่าเมื่อก่อนเป็นสัตว์คุ้มครอง แต่เดี่ยวนี้ปลดออกมาแล้ว
Cr.SOMCHAIMD
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เพิ่งจับได้ 15 ตัว ที่เหลือพยายามจะจับไปให้หมด โดยจะเข้าพื้นที่ในช่วงเช้า และติดประกาศห้ามเลี้ยง หลังจากนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะแล้วเสร็จ ส่วนคนเลี้ยงเก่านั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข คือเลี้ยงไม่มีคอก ไม่กักบริเวณ ทำความเดือดร้อน ปรับไม่เกิน 25,000บ. แล้วแต่กรณี